ข่าว

"เพจจีน" แฉ !! ร้านซีฟู้ดภูเก็ตโกง ตร.จับดำเนินคดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับผู้จัดการร้านซีฟู้ดภูเก็ตดำเนินคดี หลังเพจดังของจีนแฉโกงน้ำหนัก พบมีความผิดจริง ควบคุมตัวผู้จัดการร้านดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

             25 ก.พ.61 - ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบร้านอาหารซีฟู้ด หลังเพจดังของประเทศจีนออกมาโพสต์เตือนนักท่องเที่ยวจีนให้ระวังร้านอาหารบริเวณชายหาดป่าตองว่าโกงน้ำหนัก หลังตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริง จึงควบคุมตัวผู้จัดการร้านดำเนินคดีตามกฎหมาย

             ทั้งนี้เนื้อหาเว็บไซต์ของประเทศจีนที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเอาเปรียบของผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดภูเก็ต สรุปใจความว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ได้รับแจ้งจากผู้ใช้โซเชียลว่าในช่วงตรุษจีนได้ถูกร้านอาหารหลอกลวง ซึ่งเมนูของทางร้านระบุว่า กุ้งจานนึงราคา 300 บาท แต่พอคิดเป็นเงินราคา 3,000- 4000บาทโดยอ้างว่า 300 บาทเป็นราคาต่อขีด

             และตั้งแต่เดือนสิงหาคมของปีที่แล้วมีผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวจีนมากกว่า 10 ราย แจ้งมาทางเว็บไซต์ถึงร้านอาหารแห่งนี้ว่า หลอกลวงนักท่องเที่ยว มีการคิดราคาไม่เหมาะสมและคิดราคาเกินจริงเป็นอย่างมากกุ้ง 1 จาน ราคาสูงถึง 1,000 หยวน เมื่อลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงินทางร้านจะใช้พนักงานในร้านมาข่มขู่ โดยทุกวันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวหลายรายถูกร้านอาหารดังกล่าวหลอกลวงอยู่ ผู้เขียนรู้สึกเสียใจและกังวลเป็นอย่างมากถึงปัญหาดังกล่าวขอให้นักท่องเที่ยวโปรดระมัดระวังและขอให้ทุกท่านเผยแพร่ข่าวสารบอกต่อคนรอบข้างหวังว่าทุกท่านจะคอยสังเกตป้ายเครื่องหมายร้านค้าดังกล่าวและห่างไกลจากร้านนี้จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อต่อไป

             ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ตพ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม ผกก.2บก.ทท.3(ตำรวจท่องเที่ยว) พร้อมด้วยนางเยาวพา ผ่องเคหา ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต, นายจำรัส เกลี้ยงแก้ว เจ้าพนักงานชั่ง ตวง วัด ชำนาญงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการจับกุมนางสาว กัญญาณัฐ ชูเขียว อายุ 26 ปี ซึ่งรับเป็นผู้จัดการร้านอาหาร “6 Restaurant” ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยกล่าวหาว่า ขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ

"เพจจีน" แฉ !! ร้านซีฟู้ดภูเก็ตโกง ตร.จับดำเนินคดี

             พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. และพล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตทำการตรวจสอบหาร้านขายอาหารในพื้นที่ป่าตอง หลังจากมีนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับไปร้องเรียนผ่านสื่อว่า ถูกหลอกลวงจากการซื้ออาหารที่แพงเกินความเป็นจริง โดยร่วมกับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ตเข้าไปตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และพบว่ามีการคิดราคาไม่เหมาะสมจริง

             “พฤติการณ์ของทางร้านที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบ คือ มีการจำหน่ายอาหารในปริมาณไม่ตรงกับราคาที่คิดเงินกับลูกค้า โดยขายกุ้งผัดซอสกระเทียม 1 จาน (จำนวน 10 ตัว) ในราคา 2,700 บาท (โดยเมนูระบุราคากุ้งขีดละ 300 บาท หากคิดตามราคาในเมนูจะได้น้ำหนักกุ้งถึง 9 ขีด) เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบนางสาวกัญญาณัฐ ชูเขียว แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน และได้ตรวจสอบกุ้งที่เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารจำนวน 10 ตัว (ตามปริมาณที่ใช้ทำอาหาร 1 จาน) ปรากฏว่า มีน้ำหนักรวมเพียง 5 ขีดเท่านั้น ซึ่งเป็นการจำหน่ายสินค้าไม่ตรงกับปริมาณสินค้าที่ได้แจ้งคิดเงิน”

             พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวต่อว่า การดำเนินการของร้านอาหารดังกล่าวถือว่า เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ต ซึ่งร้านที่มีพฤติการณ์เช่นนี้ไม่ควรที่จะมีอยู่ในประเทศไทย ดังนั้นหากมีการพบเห็นหรือถูกร้านเหล่านี้หลอกลวงหรือโกง ให้แจ้งมาที่สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

"เพจจีน" แฉ !! ร้านซีฟู้ดภูเก็ตโกง ตร.จับดำเนินคดี

             ขณะที่นางเยาวภา ผ่องเคหา ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับร้านดังกล่าว เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เคยถูกนักท่องเที่ยวจีนร้องเรียนว่าไม่ติดป้ายแสดงราคาอาหารและวัตถุดิบ ซึ่งในครั้งนั้นทางสำนักงานพาณิชย์ฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบว่าไม่ติดป้ายแสดงราคาจริง จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน เพราะเป็นการตรวจสอบครั้งแรกแต่หลังจากนั้นก็ยังไม่ยอมติดป้ายราคา ทางสำนักงานพาณิชย์ฯ จึงได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีในข้อหาไม่ปิดป้ายราคาสินค้า และมาในครั้งนี้ก็มีการร้องเรียนอีก จึงได้ร่วมกับทางตำรวจท่องเที่ยวเข้าตรวจสอบ และพบว่ามีความผิดจริง จึงได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ