ข่าว

แห่รักษา!! 'หมอจ่อย'นวดเท้าไฟ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หมอจ่อย นวดเท้าไฟ ยังรักษาคนไข้แม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 34 ปี บรรเทาอาการปวดเมื่อย เจ็บปวดตามร่างกาย

 

               วันที่ 25 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 7 บ้านพนมทอง ต.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามการรักษาคนไข้ด้วยการนวดเท้าไฟ โดยเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาได้กลายเป็นข่าวใหญ่สุดทึ่ง ฮือฮากันทั้งประเทศมาแล้ว และในปัจจุบันหมอนวดเท้าไฟชื่อดัง นายสุพันธุ์ หารปราบ อายุ 64 ปี หน้าตาสดใส พูดคุยทักทายคนไข้ด้วยอัธยาศัยอารมณ์ดีไม่เปลี่ยนแปลง ขะมักเขม้นใช้เท้าทั้ง 2 ข้างเหยียบจอบเผาไฟสลับไปมาเพื่อรักษาคนไข้ที่มารอคิวจำนวนมากตลอดทั้งวัน

               ศาลากระท่อมขนาดเล็กกะทัดรัด จัดสัดส่วนพื้นที่มีหิ้งบูชาครูอาจารย์ศาสตร์การนวดตามความเชื่อ อีกส่วนเป็นสถานที่ใช้รักษาคนไข้มีที่นอน หมอนและผ้าคลุม ใกล้ๆ กันมีน้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว ด้านบนมีราวไม้ไผ่พาดสำหรับใช้จับประคองการทรงตัวในเวลาใช้เท้าไฟเหยียบรักษาคนไข้ ขณะที่ด้านล่างมีจอบเผาไฟด้วยเตาอั้งโล่รอบริการรักษาคนไข้ที่แวะเวียนมาตลอดทั้งวัน

               ขณะที่ค่ารักษาหมอจ่อย ให้จ่ายตามกำลังศรัทธาไม่เรียกเก็บ และขอหยุดทุกวันพระเพื่อเปิดทำการรักษาพระภิกษุสงฆ์และเข้าวัดเพื่อทำบุญ สวดมนต์ การรักษาที่แปลกพิสดารจนน่าทึ่งด้วยการใช้เท้าเหยียบจอบที่เผาไฟร้อนๆ แล้วมาเหยียบนวดตามร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งเท้าหมอนวดจะสลับเหยียบจอบซ้ายขวาไปมา ที่สำคัญหมอนวด เจ้าของฉายา หมอจ่อยเท้าไฟ ไม่แสดงอาการปวดแสบร้อนเท้าทั้งสองข้างแม้แต่นิดเดียว

 

แห่รักษา!!  'หมอจ่อย'นวดเท้าไฟ

 

               นายสุพันธุ์ หารปราบ หรือ หมอจ่อย กล่าวว่า เดิมเป็น อสม. ชอบศึกษาหาความรู้เรื่องสมุนไพร ได้เรียนวิชานวด จับเส้น และเปิดนวดบริการในชุมชน ขณะเดียวกันพระครูมงคลสิทธิ์ (นิน ฐิตะธมมฺโม) เจ้าคณะตำบลห้วยเม็ก ได้เมตตาสอนวิชาสุมนไพรพื้นบ้าน และการนวดเจ็บเส้น เอ็น กระดูก จนมีความเชี่ยวชาญ และส่งไปร่ำเรียนเพิ่มเติมวิชาเท้าไฟที่จ.มหาสารคาม จนถึงตอนนี้ได้รักษาคนไข้ในอาการต่างๆ มานานกว่า 34 ปี ใช้จอบเผาไฟรักษาคนหมดไปกว่า 10 อัน คนไข้จากปกติมาวันละหลายสิบคนจนต้องลดจำนวนรักษาต่อวันเหลือ 15 คน เพราะอายุเริ่มมากขึ้นอีกทั้งอยากรักษาคนไข้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะวันพระจะงดรับรักษาประชาชนทั่วไปแต่จะให้การรักษาพระภิกษุสงฆ์ และเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์ เป็นวัตรปฎิบัติเช่นนี้มาโดยตอด

               โดยขั้นตอนการรักษาจะเริ่มต้นจากการนวดคนไข้ด้วยน้ำมันมะพร้าว น้ำมันงาที่ทำขึ้นเอง จากนั้นจะใช้เท้าเหยียบจอบที่เผาไฟร้อนๆ แล้วเอาเท้านั้นมานวดตามร่างกายส่วนต่างๆ ส่วนที่ว่าร้อนเท้าไหมนั้น ตั้งแต่วันแรกที่เรียนจนถึงตอนนี้เหยียบจอบไม่รู้สึกร้อนใดๆ เพราะร่ำเรียนมามีคาถาที่สืบทอดต่อจากครูอาจารย์ และทำไมต้องเป็นจอบ ที่ใช้มาเผาไฟรักษาคนไข้ก็เพราะจอบจะช่วยขุดอาการเจ็บป่วย ปวด ที่ทนทุกข์ทรมานมานานให้หายไป

               “หลังจากที่เป็นข่าวฮือฮาดังไปทั่วประเทศเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วยจากโรคปวดตามตัว กระดูก เส้นเอ็น แห่มารับการรักษาจำนวนมาก บางรายเดินทางมาไกลถึงตี 2–3 เราก็เปิดรักษา อีกทั้งรายการโทรทัศน์ รายการข่าวก็เดินทางมาถ่ายทำไม่ขาดสายจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นที่รู้จักมีประชาชนที่เป็นคนไข้ประจำมารับการรักษาต่อเนื่องรวมถึงคนไข้ใหม่ทุกอาชีพทุกระดับเดินทางมารับการรักษา ที่ยังคงการรักษาในมาตรฐานเดิมน้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา ส่วนประกอบสำคัญของการรักษาต้องทำขึ้นเอง ขณะที่การเหยียบรักษาจะใช้เวลา 45 นาที ถึง 1 ชม. โดยจอบที่เผาด้วยไฟร้อนๆ จะเริ่มตั้งเตาตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของทุกวัน ถ่านไม้เนื้อดีจะถูกเติมเพื่อเพิ่มความร้อนตลอดทั้งวันจนกระทั่งเสร็จสิ้นการรักษาก็จะดับไฟให้มอดลง เป็นอยู่เช่นนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน” หมอจ่อย กล่าว

 

แห่รักษา!!  'หมอจ่อย'นวดเท้าไฟ

 

               หมอจ่อย กล่าวอีกว่า คนที่เข้ามารับการรักษาในยุคนี้อาการป่วยไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก เช่นกลุ่มปวดเรื้อรัง เจ็บปวดตามข้อ กระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น จากอุบัติเหตุ และการทำงานหนัก ขณะเดียวกันโรคที่พบใหม่อย่างกระทับเส้นประสาท มีคนป่วยหลายคนที่จะต้องผ่าตัดเมื่อรักษาไปเพียงครั้งเดียวก็หายขาดไม่ต้องไปผ่าตัดเลย หลายคนอาจจะไม่เชื่อแนวทางการรักษาแบบพื้นบ้านตามตำราครูอาจารย์ ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลบ้างก็มีมาท้าทายลองของเราก็นวดให้ตามปกติ เพราะคิดว่าคิดดีทำดีเป็นที่ตั้งเราก็ไม่มีภัยใดๆ อย่างไรก็ตามในตอนนี้อยากได้คนรุ่นใหม่มาเรียนรู้วิชาการนวดให้สืบทอดต่อจากตน เพราะอายุที่มากขึ้นแต่คนไข้มารักษายังเยอะขึ้นทุกๆ ปี เป็นไปได้หากตั้งจิตตั้งใจดีก็พร้อมจะสอนวิชาให้เพื่อจะได้ช่วยกันรักษาคนไข้ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากร่วมทำบุญเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

               นางสาวสุจิตรา ภักดี อายุ 31 ปี เป็นคนในพื้นที่ ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก เดินทางจาก กทม. มาเพื่อรับรักษา หลังไปที่โรงพยาบาลตรวจร่างกายจากการเจ็บปวดทรมานที่บริเวณกระดูกสันหลัง ชาตัวซีกซ้าย ล้มหมอนนอนเสื่อเกือบ 1 ปี ก่อนจะมารับการรักษากับหมอจ่อยอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 2 อาการปวดหายไปอย่างปลิดทิ้ง จนไม่ต้องเข้าผ่าตัดจากโรคกระดูกทับเส้นประสาท แต่ถ้าว่างก็จะเดินทางมาให้หมอจ่อยเหยียบตามร่างกายให้ตลอด ปีละ 3-5 ครั้ง

               นางสาวสุจิตรา ภักดี กล่าวว่า อาการปวดกำเริบอย่างหนักเมื่อประมาณปี 59 ถึงขั้นลุกเดินไม่ได้ลำบากถึงแม่ ญาติพี่น้องต้องมาดูแลช่วยประคับประคองเข้าห้องน้ำ หรือเดินไปไหนมาไหน ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนหลายแห่ง กินยาสามัญหลายแขนงก็ไม่ดีขึ้น กลับทำให้อาการปวดเพิ่มมากขึ้นจนซีกซ้ายเริ่มชาไม่รู้สึก หมอที่ดูแลอาการแนะนำให้ผ่าตัดเพราะกระดูกทับเส้นประสาท เลยเกิดลังเลเพราะกลัวการผ่าตัด จนเพื่อนได้แนะนำให้มานวดกับหมอจ่อย จึงเดินทางกลับบ้านเกิดและมารับการรักษาด้วยการนวดเท้าไฟของหมอจ่อย ครั้งแรกอาการปวดได้หายไป อาการชาซีกซ้ายเริ่มดีขึ้น จนถึงตอนนี้อาการปวดหายไป แต่ที่แวะเวียนมานวดเพื่อป้องกันไว้อีกทั้งการนวดเท้าไฟรักษาของหมอจ่อย ไม่ได้สิ้นเปลืองเงินมากมายจึงมาได้บ่อยครั้ง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ