ข่าว

ฝากขัง"พ.ต.ท.ธนกฤต"ช่วยเครือข่ายเมียขนกัญชา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปส.คุมตัวฝากขังครั้งแรกแจ้ง 3 ข้อหา ร่วมเมียเครือข่ายเทียนเอ-เอกอ้วนสมคบลำเลียงกัญชาฝั่งอีสาน ส่งใต้  พร้อมค้านจนคดีถึงที่สุด ชี้ โทษสูง เป็นเครือข่ายกลัวหนี

        19 ม.ค.61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  พ.ต.ต.จตุพล คงถาวร พนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ได้ควบคุมตัว "พ.ต.ท.ธนกฤต นิตสพันธ์" อายุ 48 ปี อดีต สว.สส. กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 25/2561 ลงวันที่ 17 ม.ค.61 ข้อหาร่วมกันมีกัญชา ยาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ และสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 ม.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 10 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติต้องโทษผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนก็ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง มีลักษณะเป็นเครือข่ายหากได้รับการปล่อยชั่วคราวก็เกรงว่าผู้ต้องหานั้นจะหลบหนี

        โดยคำร้องฝากขังนี้ ได้บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.60 เวลาประมาณ 03.00 น. ต่อเนื่องจนถึง 23.00 น. ปส. ได้จับกุมตัว นายสมคิด เสนพิแสง , นายสถาพร ก่ำแก้ว และนายสุชาติ แสงตะวัน พร้อมด้วยของกลาง 10 รายการ คือ กัญชาอัดแท่งหุ้มด้วยพลาสติกใส รวม 520 แท่ง น้ำหนักรวม 520 กก. ราคา 3,120,000 บาท , รถยนต์บรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หัวลาก และรถพ่วง ทะเบียนสระบุรี , โทรศัพท์มือถือไอโฟนและยี่ห้ออื่นรวม 6 เครื่อง , กระเป๋าหนังสะพาย สีน้ำตาล และเอกสารประกอบคดี 18 แผ่น

        ซึ่งทั้งสามถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมีกัญชา ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกัญชานั้นมีการลำเลียงจากพื้นที่ จ.อุดรธานี มาส่งยังกลุ่มเครือข่ายลูกค้าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วจะลักลอบลำเลียงสู่ประเทศเพื่อนบ้านด้วยโดยใช้รถบรรทุก 18 ล้อและรถพ่วง ของกลางนั้นเป็นยานพาหนะลำเลียงยาเสพติด โดยขณะถูกจับกุมที่ด่านตรวจค้นตำรวจภูธรสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์  นายสมคิด เป็นผู้ขับรถขนยา

         ส่วนนายสถาพร นั่งโดยสาร ขณะที่นายสุชาติ อยู่ที่ อ.หาดใหญ่ เพื่อรอรับกัญชาที่จะขนมา โดยเจ้าหน้าที่จับกุมนายสุชาติ ได้ที่ห้องพักซึ่งมาเปิดไว้ที่ ถ.โชติวิทยะกุล 5 ในหาดใหญ่ จ.สงขลา ภายหลังจับกุมนายสุชาติ ก็รับว่าร่วมกับนายสมคิดและนายสถาพร ขนส่งกัญชามาให้ลูกค้าที่ จ.สงขลา จากนั้นพนักงานสอบสวน ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานขยายผลต่อไปกระทั่งทราบว่า น.ส.ทิพย์อาภา รักษาแสง มีส่วนร่วมกระทำผิดในครั้งนี้ด้วย ในฐานะเป็นผู้ติดต่อประสานงานว่าจ้างผู้ขนลำเลียง จึงได้ขอศาลอาญาออกหมายจับแล้วลงวันที่ 9 ม.ค.61ในความผิดฐานร่วมมีกันยาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครองฯ

         โดยสามารถติดตามจับกุมตัว น.ส.ทิพย์อาภา ได้เมื่อวันที่ 15 ม.ค.61 แล้วในวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา เลขาธิการ ป.ป.ส.ได้มีหนังสืออนุมัติให้จับกุมตัว น.ส.ทิพย์อาภา ในความผิดฐาน ร่วมกันสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน

        ส่วน "พ.ต.ท.ธนกฤต" ผู้ต้องหาคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิด ด้วยการช่วยเหลือ มีส่วนร่วมลำเลียงกัญชา ของกลางไปให้ลูกค้า และสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นฯ ทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ กับรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อให้ความสะดวกในการกระทำผิดด้วย ตามความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ม.4,7(5),26 วรรคสอง ,76/1 วรรคสอง , 102 และ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ม.6(4) , 8 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา ม.83  ซึ่งได้มีการขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 17 ม.ค.61 กระทั่งวันเดียวกัน หน่วยงานต้นสังกัดของผู้ต้องหา ได้ส่งตัว "พ.ต.ท.ธนกฤต" ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในชั้นสอบสวน "พ.ต.ท.ธนกฤต" ผู้ต้องหาคดีนี้ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

         ทั้งนี้ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขัง

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ "น.ส.ทิพย์อาภา หรืออีฟ รักษาแสง" นั้นเป็นภรรยาของ "พ.ต.ท.ธนกฤต" ผู้ต้องหาคดีนี้ ซึ่งการขยายผลจับกุม ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. เปิดเผยว่า น.ส.ทิพย์อาภาเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเครือข่ายเทียนเอ ของนายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ หรือเอกอ้วน ที่ถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้ว โดยน.ส.ทิพย์อาภาใช้วิธีศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าตัวเองและเปลี่ยนรูปลักษณ์ ปรับเปลี่ยนยานพาหนะเพื่อใช้ขนยาเสพติด โดยการฝังยาเสพติดไว้ใต้พื้นรถ และใช้ป้ายทะเบียนหลายหมายเลข เป็นการสวมหมายเลขทะเบียนอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ในส่วนของ "พ.ต.ท.ธนกฤต" นั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ผบ.ตร.ได้เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ