"เมย์"ร่ำไห้เลิก"เจ"-เปิดใจปมรักล่มแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม

     เป็นเรื่องสุดช็อกรับเดือนแรกของปี 2561 เมื่อคู่รักนักกีฬาสุดฮอต “เมสซีเจ” นายชนาธิป สรงกระสินธ์ และดาราสาวสุดเซ็กซี่ “เมย์” น.ส.พิชนาฏ สาขากร ต้องจบเส้นทางรักแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยท่ามกลางความมึนงงของแฟนคลับชาวไทย โดยเรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มกราคม หลังจาก ดาราสาวโพสต์ในไอจีส่วนตัว ระบุข้อความว่า “maypitchy ถึงทุกๆ คน คือเมย์อึดอึดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ 10 กว่าวันมาแล้ว ยังทำใจไม่ได้เลย และเมย์คิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้เมย์จะไม่ไหว เมย์กำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า ความรักของเรามาถึงทางตันแล้ว เจเองเสียใจ และเมย์เองก็เสียใจมาก มีปัจจัยบางอย่างทำให้เราต้องจบความสัมพันธ์ ทั้งๆ ที่รักกันมาก ขอทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้เราทั้งคู่ด้วย และโปรดอย่าถามอย่าแท็กใดๆ มาอีกเลย เมย์ต้องการทำใจ ขอบคุณค่ะ #รักเธอมากนะ #สู้ๆ #สุดที่รัก”

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบสาเหตุของการจบสัมพันธ์รักของเจและเมย์ ว่าเป็นเพราะอะไร หลังจากดาราสาวโพสต์ข้อความในไอจีก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติม ขณะที่ เจกำลังอยู่ในช่วงซ้อมปรีซีซั่นกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร เพื่อลุยศึกเจลีก เป็นฤดูกาลที่สอง ตามสัญญายืมตัว 18 เดือนจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 

     ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ และเชื่อว่า เจยังไม่พร้อมที่จะตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น

     ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวสะพัดออกมาว่าสาเหตุที่ทำให้ดาราสาวต้องตัดใจจากนักฟุตบอลหนุ่มรุ่นน้องเป็นเพราะครอบครัวฝ่ายชายไม่ยอมรับ โดยเฉพาะแม่ของเจที่ไม่ปลื้มดาราสาวอย่างมาก 

     เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมย์เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา เนื่องจากทางครอบครัวฝ่ายชายไม่ยอมรับ ตอนที่คบกันแรกๆ แม่ของเจเรียกไปคุยว่า คิดจริงจังถึงขั้นแต่งงานหรือไม่ ซึ่งตอนนั้นเจบอกว่า จริงจังถึงขั้นแต่งงาน แต่แม่บอกว่า รอให้สนามฟุตบอลเสร็จก่อน โดยมีกำหนดเสร็จในปี 2561 และแม่เจยังบอกว่า ให้ลูกชายบวชก่อน ขอแค่นี้ จากนั้นทุกอย่างเป็นไปด้วยดี กระทั่งสนามฟุตบอลสร้างเสร็จ และเจบวชเรียบร้อย

     “ตอนนั้นเมย์ยอมรับว่าดีใจมาก คือรอแค่ผู้ชายมาขอเท่านั้น เจมาถามว่า ถ้าแต่งงานต้องทำยังไง เมย์บอก ต้องบอกพ่อแม่ก่อน เพื่อครอบครัวทั้งสองฝ่ายคุยกัน จากนั้นเราเข้าไปคุยกับครอบครัวเจเรื่องนี้ด้วยกัน ซึ่งได้คำตอบว่า ให้รอ 3 ปี เพราะไม่มีฤกษ์ ส่วนอีกเหตุผลคือ เราเกิดปีไก่เหมือนกัน อยู่ด้วยกันจะตีกันตาย เมย์ได้ยินก็รู้สึกช็อก เราทั้งคู่ร้องไห้ต่อหน้าพ่อแม่เจ เมย์ตัดสินใจถามพ่อแม่เจตรงๆ ว่าไม่ชอบเมย์หรือเปล่า ซึ่งได้คำตอบว่า ไม่มีอะไร แต่เขาพูดอีกว่า บ้านไม่มีอะไรให้ ถ้าเรียกสินสอดแพงๆ จะเอาที่ไหนจ่าย ตอนนั้นเมย์ได้ยินรู้สึกเสียใจ อยากบอกว่าไม่ได้ต้องการอะไร เพราะรักเจจริงๆ ทำทุกอย่าง อายุเมย์เยอะแล้ว ฝากไข่เมย์ก็ทำ เพราะเราแก่กว่าเจเยอะ แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัวเขาไม่ยอมรับเมย์ คงไปต่อไม่ได้ อีกทั้งไม่อยากให้เจทะเลาะกับแม่ เพราะเมย์ก็รักพ่อแม่ของเรา ถ้าต้องให้เมย์ต้องทะเลาะกับพ่อแม่เพราะเรื่องนี้คงไม่ยอมเหมือนกัน”

     ดาราสาว เล่าอีกว่า ฝ่ายเจบอกว่าไม่เลิก พร้อมกับขอร้องไม่ให้เลิก แต่สุดท้ายเจก็ตอบไม่ได้ว่า จะทำอย่างไรต่อไป ทุกคนจะเห็นว่าเมย์ยอมทุกอย่างเพื่อเจ เพราะรักครอบครัวเจจริงๆ แต่ทางครอบครัวนั้น เห็นแต่คำพูดไม่เห็นการกระทำ ตอนเปิดตัวว่าคบกับเจนั้น ตอนนั้นพ่อเป็นรองอัยการสูงสุด พ่อโดนแฟนคลับเจเขียนจดหมายเข้าไปที่ทำงาน สาปแช่งตระกูลว่า ลูกสาวคบกับเจทำไม ถ้าเขาฟอร์มตกจะสาปแช่งทั้งตระกูล พ่อถ่ายรูปจดหมายฉบับนั้นมาให้ดูว่า มีอย่างนี้นะ แล้วบอกว่าถ้าทนได้และฝ่าไปได้ก็สนับสนุน ซึ่งตอนแรกพ่อแม่ไม่สนับสนุน แต่บอกว่า ถ้าจะเลิกก็ขอให้เป็นเพราะความรักไปกันไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเรื่องแบบนี้ ตอนแรกพี่ชายก็ไม่โอเค แต่เมื่อเราพิสูจน์ว่ารักกัน พี่ชายยอมรับและอวยพรว่า พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น แต่งงานกันเลย

     "บ้านเมย์รักเจมาก งานบวช พ่อแม่หลานวัย 3 ขวบ ตื่นตั้งแต่ตีสี่ไปช่วยงาน บ้านเมย์รักเขามาก บ้านเขาล่ะเป็นยังไง เราเห็นแต่ในข่าวว่าเขารักเรา แต่การกระทำไม่เห็น ถึงผู้ชายจะไม่อยากเลิกแต่เรารับไม่ได้ เมย์ไม่อยากให้แม่ลูกทะเลาะกัน เมย์ขอตัดสินใจที่จะเลิก อนาคตจะเป็นยังไงเมย์ไม่รู้ แต่ตอนนี้เมย์ตัดสินใจที่จะเลิกค่ะ” เมย์กล่าวพร้อมน้ำตา

     ด้านนายก้องภพ สรงกระสินธ์ พ่อของหนุ่มเจ เปิดเผยว่า ยังไม่ได้คุยกับภรรยา และยังไม่ได้คุยกับลูกชาย รู้สึกตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และก่อนหน้านี้ช่วงที่เจบวช เมย์ รวมทั้งครอบครัว เพื่อนๆ ก็ยังมาร่วมงานด้วยดี ส่วนเรื่องความน้อยใจของเมย์นั้น เรื่องการแต่งงานยอมรับว่าทั้งคู่เข้ามาพูดคุยกันจริง แต่ทางครอบครัวอยากให้ดูกันไปก่อน เพราเจอยู่ในระหว่างสร้างเนื้อสร้างตัว น่าจะอีกอย่างน้อยสัก 2 ปี จึงไม่รู้ว่าสาเหตุจะเป็นเพราะเรื่องนี้หรือไม่ แต่คงต้องรอคุยกับเจในเรื่องนี้อีกครั้ง

     ขณะที่ นางปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือหนิง เพื่อนสนิทของดาราสาว โพสต์อินสตาแกรมภาพตัวเองคู่กับสาวเมย์พร้อมข้อความให้กำลังใจว่า “ตราบใดที่ความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองคน ต่อให้คนสองคนรักกันให้มากมายขนาดไหน มันก้อคงไม่ใช่ อะๆ ...สัญญาเดิมของเราคงอยู่ พี่ดูแลเอง เนอะๆ เดือนไหนกิตเยอะส่งบิลเก็บที่ลิงน้อยเจ ลิงจั๊ก” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปหา “หนิง” ซึ่งนักแสดงสาวกล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เพราะพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล” หนิงกล่าวก่อนที่จะวางสายไป

     นางปานวาด บุญยรัตกลิน หรือเป้ย ลงภาพเมย์กับเจแบบรัวๆ ถึง 6 ภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งมีทั้งภาพที่สาวเมย์ทาลิปกลอสให้หนุ่มเจ และภาพที่หนุ่มเจหอมแก้มสาวเมย์พร้อมแฮชแท็ก #ไม่เป็นไรนะ

    นอกจากนี้ ยังมีเหล่าคนบันเทิงมาให้กำลังใจในอินสตาแกรมของสาวเมย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “กอล์ฟ” พิชญะ นิธิไพศาลกุล ที่เข้ามาเขียนข้อความความว่า “สู้ๆ นะครับพี่เมย์”

    “หมู” พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ เข้ามาเขียนข้อความว่า “ความรักมันก็เจ็บปวดแบบนี้ เป็นกำลังใจให้น้องนะ”

    เช่นเดียวกันเมื่อบรรดาแฟนคลับและชาวเน็ตทราบข่าวดาราสาวประกาศยุติสัมพันธ์กับนักฟุตบอลขวัญใจชาวไทย พบว่า ชาวโซเชียลและแฟนคลับต่างเข้ามาให้กำลังใจดาราสาว บางคนถึงกับไม่เชื่อสายตา เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้งเจ และเมย์แสดงออกถึงการเป็นคู่รักที่หลายๆ คนต้องอิจฉา และไม่มีวี่แววใดที่ทั้งคู่ต้องเลิกรากันแบบสายฟ้าแลบ อีกทั้งเมื่อปีที่แล้ว ยังมีข่าวว่า ทั้งสองมีแผนจะเกี่ยวก้อยกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ 

    ทั้งนี้ แฟนคลับที่ติดตามเมย์อย่างเหนียวแน่นได้นำภาพในไอจีของดาราสาวเมื่อวันที่ 16 มกราคม ขณะกำลังคุยเฟซไทม์กับเจ โดยดาราสาวแท็กภาพหาแฟนหนุ่มตามด้วยข้อความสุดหวาน “boy dont cry!! นี่คิดถึงเค้าจนร้องไห้เลยหรอ สู้ๆค่ะ #ไม่เป็นไรนะ #อย่าร้องนะคนดี #มีแฟนแล้วรักแฟนมาก”

    ส่วนแฟนคลับอีกคนบอกว่า “หากยังรักกันอยู่ก็อยากให้เคลียร์ปัญหาและกลับมารักกันดังเดิม”  ตัดสินใจดีๆ ขอให้อดทน ไม่อยากให้รักของทั้งคู่แบบนี้เลย สู้สู้นะคะ

    แฟนคลับอีกคนคอมเมนท์ในไอจีดาราสาวว่า ขอเป็นกำลังใจทุกอย่างจะดีเอง ถ้ารักต้องเข้าใจ..ขอให้อย่าใช้ใจเป็นตัวนำทาง อย่าใช้อารมณ์ ปัญหาทุกอย่างมีทางออก จับมือกันให้แน่น

     ขณะที่แฟนคลับบางส่วนมองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของคนสองคน โดยโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลว่า “การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน อายุป่านนี้นี่ให้เลือกทางเดินของเขาเองดีกว่า ถ้ามั่นใจว่าจะอยู่กันยันตายก็ลุยไปเลย ดูตัวอย่าง Macron ข้ามรุ่นตั้ง 24 ปี นักข่าวไปถามความรู้สึกชาวบ้าน ก็เห็นมีแต่บอกว่า 1st lady เก่งฉลาด มีแต่คนชอบ”

(ข่าวน.1นสพ.คมชัดลึก)