ชง ป.ป.ช.ยกเลิก ระเบียบให้-รับของขวัญไม่เกิน 3,000 บาท

 

      18 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.00 น.ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ชั้น 1 กลุ่มไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ และ คณะฯ จะเดินทางมายื่นหนังสือต่อ พลตำรวจเอก วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้ดำเนินการ ดังนี้

      1.ยกเลิกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2543 โดยเฉพาะ การรับของขวัญหรือประโยชน์อื่นใด ไม่เกิน 3,000 บาท ซึ่งเป็นระเบียบเก่า อีกทั้งเป็นการเปิดช่องธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม เชิงอุปถัมภ์ ที่เอื้อต่อการทุจริต-คอร์รัปชั่น เลือกปฏิบัติ คือ ห้ามเด็ดขาด ข้าราชการ ข้าราชการการเมืองเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกสังกัดไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ อยู่ระหว่างดำรงตำแหน่ง ที่ได้รับเงินเดือน และ สวัสดิการของรัฐ ตามหน้าที่ ห้ามรับและให้ของขวัญ หรือ สินทรัพย์อื่นใดทั้งสิน จาก ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา พ่อค้า ประชาชน ถ้ารับหรือให้ จะถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นฐานรับหรือให้สินบน

 

      2.ออกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพิ่มเติม ห้ามเด็ดขาด ข้าราชการ ข้าราชการการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกสังกัดไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ อยู่ระหว่างดำรงตำแหน่ง ที่ได้รับเงินเดือน และ สวัสดิการของรัฐตามหน้าที่ ห้ามรับ-ให้ หรือเป็นธุระจัดการจัดหา หรือ สอพลอ ประเคน ดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ภายในประเทศ เพราะจะเกิดความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ บุญคุณทางเกียรติที่ให้ จะทำให้ผู้ได้รับรู้สึกสำนึกบุญคุณในภายหลัง จนเกิดความช่วยเหลือผู้ขอให้ ผู้ให้ หรือ ต้องละเว้นบางอย่างให้จนเกิดความอยุติธรรม ถือว่าเป็นการทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งผู้ให้และผู้รับ ผู้จัดหา จะถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย ทุจริตคอรัปชั่นฐานรับหรือให้สินบน

 

        3.ออกประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพิ่มเติม ห้ามเด็ดขาด ข้าราชการ ข้าราชการการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกสังกัดไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ อยู่ระหว่างดำรงตำแหน่ง ที่ได้รับเงินเดือน และ สวัสดิการของรัฐตามหน้าที่ ห้ามยืมทรัพย์สินอื่นใดที่มิใช่ของตน อาทิ เงินสด ที่ดิน เครื่องประดับ รถยนต์ อื่นๆ ถ้ายืมมาใช้จะถือว่าเป็นความผิดในทางทุจริตประพฤติมิชอบได้

 

        “เพื่อสร้างบรรทัดฐานของสังคมไทยสมัยใหม่ต่อไป อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบสังคมอุปถัมภ์ที่มีมาอย่างยาวนาน และจะทำให้ ข้าราชการ ข้าราชการการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกสังกัดไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ประชาชนชาวไทย ตั้งหลักบรรทัดฐานของสังคมใหม่ จะสามารถแยกแยะถูกผิดได้ ดี-ชั่วได้ รวมถึงสามารถสอนลูกหลานรุ่นหลังได้อย่างถูกต้องต่อไป”หัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ กล่าวในที่สุด

--------//---------