อาชีวะสร้างชื่อครองแชมป์แกะสลักหิมะสมัยที่ 9 กลับมาถึงไทยแล้ว
9 ม.ค. 61 เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ อาคารผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมคณะได้เดินทางมาให้การต้อนรับและร่วมเป็นกำลังใจให้นักศึกษาอาชีวศึกษา “แชมป์ฮาร์บิ้นแกะสลักหิมะ” และคณะ ที่เดินทางไปแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ (The 10th International Collegiate Snow Sculpture Contest 2018) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 7 มกราคม ที่ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมฮาร์บิ้น เมืองฮาร์บิ้น มณฑลเฮย์หลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน และเดินทางกลับมายังประเทศไทย ในวันนี้ด้วยสายการบิน DLC-BKK เที่ยวบินที่ MF837
ดร.สุเทพ กล่าวว่า วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี สร้างสถิติแชมป์โลก 9 สมัยให้ประเทศไทย โดยคว้าสุดยอด 2 รางวัลเกียรติยศแห่งปี ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ และรางวัล Best Technique Award (รางวัลทักษะฝีมือใช้เทคนิคการแกะสลักยอดเยี่ยม) ถือเป็นสุดยอดรางวัลด้านงานศิลปะลวดลายไทย จากการเข้าแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ (The 10th International Collegiate Snow Sculpture Contest 2018) ที่ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมฮาร์บิ้น เมืองฮาร์บิ้น มณฑลเฮย์หลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 7 มกราคม ซึ่งมีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 55 ทีม จาก 12 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 3 ทีม ได้แก่ ทีมจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี และวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ทำให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เป็นแชมป์ติดต่อกันถึง 2 สมัย และรักษาสถิติแชมป์โลกจากการเข้าแข่งขันเป็นครั้งที่ 9 ของประเทศไทย
สำหรับผลการแข่งขัน ปรากฏว่า ทีมจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ดีกรีแชมป์เก่า ได้รับรางวัลชนะเลิศ นำทีมโดย นางสุวนิจ สุริยพันตรี รองผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ผู้ประสานงาน นายพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ นายสุระชาติ พละศักดิ์ ครูผู้ควบคุมทีมการแข่งขัน พร้อมด้วย นายกฤษณะ คบสหาย นายธนศักดิ์ พิพัฒน์ นายธนากร ศักดิ์สิงห์ และนายอภิสิทธิ์ ศรชัยนักเรียน ปวช.3 สาขาวิจิตรศิลป์ และครั้งนี้ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานียังคว้าอีกหนึ่งรางวัลเกียรติยศมาฝากเป็นของขวัญให้คนไทย ได้แก่ รางวัล Best Technique Award (รางวัลทักษะฝีมือใช้เทคนิคการแกะสลักยอดเยี่ยม) สร้างสถิติรักษาแชมป์สมัยที่ 2 ให้กับทีมตนเอง และสมัยที่ 9 ให้กับประเทศไทย อย่างน่าชื่นชม ด้วยการนำแนวความคิดมาจากป่าหิมพานต์ คติพุทธศาสนาและฮินดูที่ถือว่าเป็นดินแดนทิพย์ที่มีอยู่จริงจัดอยู่ในเขตสวรรค์ชั้น 1 คือ ชั้นจาตุมหาราชิกาที่ใกล้ชิดกับมนุษย์โลก ซึ่งส่งผลต่อคติความเชื่อของคนไทยมาจนถึงปัจจุบันด้วยพลังความศรัทธาเป็นมงคลชีวิตที่ดีงามสัตว์ป่าหิมพานต์ถือเป็นตัวแทนของบุญวาสนาและความสำเร็จ จึงเป็นที่มาของแนวคิดในการออกแบบ ในชื่อผลงานที่ว่า อาชา-ปักษา-มัจฉา-วารี ด้วยการนำ ม้า-นก-ปลาและน้ำ จากป่าหิมพานต์มาแกะสลักลงบนก้อนหิมะ “ม้า” เป็นสัญลักษณ์ถึงความเจริญก้าวหน้ามุมานะอดทนและความขยันขันแข็งในการทำงานเพื่อเป้าหมายสู่ความสำเร็จในชีวิต “นก” หมายถึงความอิสระของพลังแห่งความคิดการกระทำมักมีความฉลาดหลักแหลมด้านสติปัญญาและทะยานบินไกลสู่ความสำเร็จ “ปลา” หมายถึงสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง การมีเงินทองล้นหลามความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวย มีผลกำไร “น้ำ” หมายถึงชีวิตแห่งการเริ่มต้นและสิ้นสุดเป็นสัญลักษณ์ถึงความอุดมสมบูรณ์ ความสุข ความชุ่มชื่นเย็นฉ่ำ และเป็นศูนย์รวมของสรรพสิ่งบนโลกใบนี้
ส่วนวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานีและวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ร่วมกัน ซึ่งนำเสนอผลงานการแกะสลักภาพไก่ชนพื้นบ้าน โดยทีมจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี และผลงานการแกะสลักภาพสัตว์นำโชค เต่าและมังกร จากวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ
นายอภิสิทธิ์ ศรไชย หนึ่งในทีมเยาวชนที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า ตนและเพื่อนในทีมคิดและคาดหวังกับการแข่งขันในครั้งนี้มาก เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายของการแข่งขัน ตนและเพื่อนจะสำเร็จการศึกษาในปีนี้ ปีต่อไปคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรุ่นน้องได้รับใช้ชาติต่อไป ผมขอขอบพระคุณผู้บริหาร ครู เพื่อนๆ และคนไทยทั้งประเทศ ที่ส่งกำลังใจเชียร์ทีมวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานีตลอดมา นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ อยากฝากบอกทุกคนว่า วันนี้เด็กอาชีวศึกษาคือ ฝีมือชน คนสร้างชาติ เป็นคำที่ยืนยันให้เห็นศักยภาพอย่างไม่ต้องสงสัย จากนี้ไปผมและเพื่อนจะได้นำประสบการณ์เหล่านี้ไปพัฒนาด้านวิชาชีพของเองในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง