ข่าว

"บิ๊กจิน" เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ประจิน" ตรวจเยี่ยมคุกบางขวาง รับอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากล แต่คุกจริงไม่เหมือนในหนัง สั่งราชทัณฑ์เร่งแก้ปัญหานักโทษล้นคุก-ทำผิดซ้ำ

 

30 ธ.ค.60 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบนโยบายให้แก่ผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรค และเข้าตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางบางขวาง เพื่อสังเกตการณ์มาตรการคุมขังนักโทษในคดีอุกฉกรรจ์และผู้ต้องโทษประหารชีวิต ตลอดจนเข้าตรวจเยี่ยมเรือนนอนซึ่งมีมาตรการบิ๊กคลีนนิ่งครั้งใหญ่ ไม่ให้นักโทษมีของใช้ส่วนตัวเกินความจำเป็น โดยแต่ละคนจะได้รับแจกผ้าห่ม 3 ผืน ผืนแรกสำหรับปูนอน ผืนที่ 2 ม้วนเป็นหมอน และผืนที่ 3 ใช้สำหรับห่มกันหนาว โดยสภาพภายในเป็นมีลักษณะเป็นห้องโถงยาว ไม่มีเตียง ความจุนักโทษห้องละไม่เกิน 22 คน แต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว ถังน้ำดื่ม พัดลมเพดาน และโทรทัศน์ 1 เครื่อง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง
 
    หลังจากนั้นพล.อ.อ.ประจิน เข้าตรวจเยี่ยม แดนประหารชีวิต ห้องฉีดสารพิษ แดนสูทกรรม (แดนหุงต้มอาหาร) ลานอาบน้ำ ลานกิจกรรมทางศาสนา และแดน 8 ซึ่งภายในเป็นโรงฝึกอาชีพช่าง ที่กรมราชทัณฑ์เตรียมสถานที่ไว้รองรับผู้ต้องขังที่ต้องโทษคดีประดิษฐ์อาวุธปืนเถื่อน หรือปืนไทยประดิษฐ์ ซึ่งกองทัพบกจะส่งนายทหารผู้เชี่ยวชาญเข้ามาฝึกทักษะเพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอาวุธปืน รองรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยพล.อ.อ.ประจิน ยอมรับว่า เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสเข้ามาในเรือนจำ พบว่าเรือนจำกลางบางขวางมีมาตรการดูแลผู้ต้องขังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากล แต่สภาพเรือนจำในความเป็นจริงแตกต่างจากที่เคยพบเห็นในภาพยนตร์

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง
 
    พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า จากการรับฟังบรรยายสรุปของผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ พบว่ามีปัญหา 3 เรื่อง 1.ผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ขณะนี้มีผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ 320,000 คน ซึ่งไม่สอดคล้องกับจำนวนเจ้าหน้าที่และผู้คุมที่มีสัดส่วนน้อยมาก ที่สำคัญนักโทษส่วนใหญ่ 70% เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด กรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานปลายทางจึงต้องไปหารือกับหน่วยงานต้นทาง เพื่อแก้ไขให้สังคมมีความเข้มแข็งไม่ตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดและกระทำผิดกฎหมาย

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

    พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า ปัญหาด้านที่ 2. คือสังคมภายนอกไม่ยอมรับผู้พ้นโทษออกจากเรือนจำ ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่มีงานทำ ไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชนจึงต้องหวนกลับเข้าสู่วงจรของการกระทำความผิดซ้ำ จึงแนะนำให้กรมราชทัณฑ์ปรับปรุงรูปแบบการคืนคนดีสู่สังคม เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัวพ้นโทษ ทั้งในด้านการฝึกอาชีพ ซึ่งต้องร่วมมือกับภาคเอกชนฝึกทักษะอาชีพให้ผู้ต้องขังตามภูมิลำเนาของแต่ละราย เพื่อให้มีตำแหน่งงานรองรับในท้องถิ่นเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษกลับไปอยู่บ้าน นอกจากการฝึกทักษะแล้วยังต้องการฝึกจิตใจ โดยใช้ศีลสมาธิเข้าช่วยขัดเกลาจิตใจ และการฝึกให้ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวและใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคม ด้วยนำการพัฒนาปรับเปลี่ยนชีวิตมาใช้นำหน้าการคุมขัง ทั้งนี้ก่อนที่จะปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ต้องนำนักโทษออกไปทำงานบริการสังคม เพื่อให้สังคมเห็นภาพว่ากลุ่มคนที่เคยผ่านเข้ามาในเรือนจำเป็นคนที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ทั้งนี้เพื่อสร้างการยอมรับและลดการต่อต้านจากภาคสังคม

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง

"บิ๊กจิน"  เยี่ยมคุกบางขวาง ของจริงไม่เหมือนในหนัง


    พล.อ.อ.ประจิน กล่าวด้วยว่า 3. ปัญหาที่ผู้พ้นโทษกลับมากระทำผิดซ้ำ ที่ผ่านมามีอัตราผู้ต้องขังที่พ้นโทษกระทำผิดซ้ำเพิ่มขึ้นในแต่ละปี โดยปีแรกมีผู้กระทำผิดซ้ำ จำนวน 17 % ปีที่ 2 มีผู้กระทำผิดซ้ำจำนวน 24 % และปีที่ 3 มีผู้กระทำผิดซ้ำ 27 % รวมตัวเลข 3 ปี มีผู้กระทำผิดซ้ำถูกส่งกลับเรือนจำเกือบ 1 ใน 4 ผู้ต้องขังที่พ้นโทษ จึงเป็นการบ้านของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องสร้างความพร้อมผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ ดูแลไม่ให้เกิดความรู้สึกแปลกแยก และเปิดตลาดงานให้รองรับ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ