ข่าว

อัยการฟ้องแล้ว "องอาจ" อดีตโฆษกวัดพระธรรมกาย ปลุกปั่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รอลุ้นประกันหลังยื่นเงินสด 4 แสน เจ้าตัวพร้อมให้การปฏิเสธสู้คดีออกแถลงการณ์-โพสต์ FB ดีเอสไอแกล้งบุกค้นวัดปี 59 ใช้ความรุนแรงพุทธศาสนา

 

          ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 28 ธ.ค.60 เวลา 10.00 น. พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 ได้ยื่นฟ้อง นายองอาจ ธรรมนิทา อายุ 35 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเป็นอดีตโฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เป็นจำเลย ในความผิดทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีใดอื่นมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่แสดงความเห็นติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดก่อความไม่สงบหรือล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116

          โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.59 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้จัดประชุมเจ้าหน้ารัฐเพื่อตรวจค้นจับกุม "พระเทพญาณมหามุนี" หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามหมายจับศาลอาญา ส่วนจำเลยที่เป็นโฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้จัดการแถลงด้วยวาจาและเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "เครือข่ายศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย" ซึ่งเนื้อหาระบุถึงสถานการณ์ส่อจะเกิดความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐกับสถาบันพระพุทธศาสนา มาจากการดำเนินการของพนักงานสอบสวนคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่เกี่ยวโยงกันไม่มีความเป็นธรรมหลายประการและมีเจตนากลั่นแกล้ง เช่น การสั่งหยุดออกอากาศสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม DMC ที่มีเนื้อหาในการสอนธรรมมะ โดยไม่ไต่สวน ซึ่งเป็นคำสั่งที่นำโดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. โดยข่าวปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ 3,000 คน เตรียมบุกวัดธรรมการต่อเนื่อง 4 วัน มีการสั่งเตรียมแพทย์ซึ่งจะทำให้มีผู้บาดเจ็บ ส่อให้เห็นว่าจะมีการใช้ความรุนแรง และจะเป็นบาดแผลอย่างลึกซึ้งระหว่างสถาบันชาติกับพระพุทธศาสนา 

          ซึ่งการกระทำดังกล่าวของจำเลย ได้เผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปที่มาร่วมฟังแถลงข่าวและใช้เฟซบุ๊กได้รับทราบ ส่งผลให้ประชาชนที่เห็นข้อความดังกล่าวเข้าใจว่าพนักงานของรัฐกระทำการรุนแรงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แกล้งดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย อันเป็นการกระทำเพื่อก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนที่จะเกิดความไม่สงบ หรือล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เหตุเกิด ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ชั้นสอบสวน "นายองอาจ" จำเลยให้การปฏิเสธ 

          ทั้งนี้ในการฟ้องดังกล่าว อัยการได้ระบุด้วยว่า หากจำเลย ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา ก็ให้เป็นดุลยพินิจของศาล

          ภายหลังอัยการยื่นฟ้องแล้ว ศาลได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.3951/2560 และได้อ่านกับอธิบายคำฟ้องให้ "นายองอาจ" จำเลย ฟังจนพอเป็นที่เข้าใจแล้วสอบคำให้การ ซึ่ง "นายองอาจ" จำเลย ได้ให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี พร้อมระบุจัดเตรียมทนายความไว้แก้ต่างคดีแล้ว ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ในวันที่ 26 ก.พ.2561 เวลา 13.30 น.

          ขณะที่ "นายวิญญัติ ชาติมนตรี" ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 400,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวจำเลยชั้นพิจารณานี้ ซึ่งคำร้องก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายนั้นเพื่อค้นหาติดตามจับกุมตัว "พระธัมมชโย" อายุ 73 ปี อดีตเจ้าอาวาส ดำเนินคดีฐานร่วมกันฟอกเงินกับอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่อัยการ มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องไว้แล้ว เหลือเพียงรอตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งปัจจุบัน "พระธัมมชโย" ยังหลบหนีคดีไม่สามารถติดตามตัวมาได้

          ขณะที่ก่อนหน้านี้ อัยการคดีอาญา 8 ก็ได้ยื่นฟ้อง "พระสนิทวงศ์ เจริญรัตตะวงศ์" หรือวุฑฒิวังโส อายุ 45 ปี ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำด้วยวิธีใดอันเป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา มาตรา 326,328 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ.60 มีการโพสต์เฟซบุ๊กบัญชีพระสนิทวงศ์ และยังได้มีการแถลงข่าวปลุกปั่นศิษย์วัดพระธรรมกายให้เข้าใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ช่วงที่เข้าค้นวัดพระธรรมกายว่า กระทำรุนแรงและไม่ชอบด้วยกฎหมาย รังแกพระสงฆ์และสมาชิกวัดพระธรรมกายนั้น 

          ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาโดย "พระสนิทวงศ์" ให้การปฏิเสธพร้อมจะนำพยานสืบต่อสู้คดี รวม 8 ปาก ซึ่งศาลนัดสืบพยานโจทก์-จำเลย เดือน มิ.ย.61 และอนุญาตให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ตามที่จำเลยขอด้วย ขณะที่ "พระสนิทวงศ์" โดยได้รับการประกันตัวไปในชั้นพิจารณา 400,000 บาท.

 

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ