‘ตูน’ ตื้นตันใจขอบคุณคนไทย ‘ก้าวคนละก้าว’ สำเร็จ !!

 

               25 ธ.ค. 60  เมื่อเวลา 17.30 น.  ตูน บอดี้สแลม ก้อย รัชวิน และทีมงานก้าวคนละก้าว เดินทางเข้ามากราบสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และรับเงินบริจาคจากชาวอำเภอแม่สาย หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา จำนวน 12 ล้านบาท และ บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำนวน 10 ล้านบาท ท่ามกลางประชาชนมาต้อนรับเป็นจำนวนมาก และทักทายเด็กผู้พิการทางสายตา และหู ที่พร้อมใจกันร้องเพลงคริสต์มาส ให้กับ ตูน บอดี้สแลม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               ตูนได้วิ่งต่อไปยังหน้าด่านพรมแดนโดยมีการกั้นแผงเอาไว้ตลอด 2 ข้างทาง และเมื่อถึงระยะประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงเส้นชัย เจ้าหน้าที่ได้กันนักวิ่งที่ร่วมวิ่งออกจากขบวน ก่อนที่จะให้ผู้ที่ร่วมโครงการก้าวคนละก้าว วิ่งด้วยกันตั้งแต่ต้น วิ่งเข้าเส้นชัยร่วมกัน เมื่อถึงจุดสิ้นสุดการวิ่งด้วยระยะทาง 2,198.82 กิโลเมตร โดยตูนได้แสดงออกถึงความโล่งใจ และภาคภูมิใจ ก่อนจะได้ร่วมถ่ายภาพกับทีมงาน และทางคณะผู้จัดงานได้กันไม่ให้สื่อมวลชนและช่างภาพภายนอกเข้าไปหลังเวที ก่อนจะนำตัว ตูน บอดี้สแลม อ้อมไปตามช่องทางด้านหลังอาคารด่านพรมแดนซึ่งเป็นที่ตั้งของป้ายเหนือสุดในสยามติดลำน้ำสายตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อนจะถ่ายทอดผ่านทางจอบนเวทีด้านหน้า

 

 

 

 

 

               จากนั้น ตูนและทีมงานได้ขึ้นแสดงตัวบนเวทีท่ามกลางเสียงตะโกนชื่นชมจากประชาชนที่ไปร่วมงานกว่า 10,000 คน โดยมี พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.เชียงราย และมณฑลทหารบกที่ 37 นายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

               โดยที่หน้าด่านพรมแดนเต็มไปด้วยผู้คนแม้ว่าถนนฝั่งตะวันออกของถนนจะไม่ปิดแต่ก็ถูกมวลชนจำนวนมากปิดไปโดยปริยาย ขณะที่ด่านพรมแดนปิดเวลา 21.00 น. ก็ไม่สามารถเดินทางไปมาได้ตามปกติด้วย

 

 

 

 

 

 

 

               ตูน ได้กล่าวบนเวทีว่า ตนได้วางแผนการวิ่งเอาไว้ เพราะตามปกติเป็นนักวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร แต่เมื่อต้องมาวิ่งระยะ 2,198.82 กิโลเมตร ก็ได้วางแผนเตรียมพร้อมว่าจะทำให้วิ่งไปได้อย่างไร จนสามารถทำได้จริงๆ ซึ่งก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร รู้สึกตื้นตันใจ และขอขอบคุณทุกคนที่ให้การช่วยเหลือเป็นข้าวและน้ำมาตลอดรายทาง ตั้งแต่ภาคใต้ถึงภาคเหนือ หากว่าพี่น้องชาวไทยไม่ช่วย เราคงไม่สามารถทำได้สำเร็จแน่นอน ซึ่งเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นการแก้ปัญหาการไปใช้บริการโรงพยาบาลจนล้นและปัญหาเรื่องเครื่องมือทางการแพทย์ขาดแคลนหรือไม่เพียงพอ หากว่าร่างกายแข็งแรงก็ไม่ต้องไปใช้บริการโรงพยาบาล

               ขณะเดียวกันตลอดรายทางได้เห็นผู้คน และได้เห็นเด็กถือกระปุกออมสินที่เป็นเงินทั้งหมดที่เขาสะสมนำมาให้ ซึ่งตนไม่ได้คิดว่าจะได้พบเจออย่างนี้มาก่อน สำหรับอนาคตหลังเสร็จโครงการนี้ หากว่ายังมีแรงอยู่ก็จะหาวิธีช่วยเหลือโรงพยาบาลอื่นๆ บ้าง นอกเหนือจากทั้ง 11 แห่งตามโครงการนี้อีก และจะทำอัลบั้มใหม่ เพราะบอดี้สแลมยังไม่ได้ทำมา 4 ปีแล้ว