ข่าว

สหรัฐถอดไทยจากบัญชีPWLเชื่อต่างชาติเชื่อมั่นดันไทยแลนด์4.0

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สหรัฐฯ ประกาศปรับสถานะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษเผยไทยจริงจังปราบปราบจนสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ลดลงชัดเจน


         16 ธ.ค.60 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 15 ธันวาคม 2560 (เวลาประเทศไทย 22.00 นาฬิกา นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (United States Trade Representatives: USTR) ได้ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ (Special 301) จากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (Priority Watch List: PWL) เป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) หลังจากที่ได้จัดให้ไทยอยู่ในบัญชี PWL ตั้งแต่ปี 2550 - 2560 ก่อนที่ได้ประกาศทบทวนสถานะของไทยนอกรอบ (Out-of-Cycle Review: OCR) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560
 
         ในการประกาศผลครั้งนี้ USTR ระบุว่าสหรัฐฯ ระบุว่าได้ตระหนักถึงความก้าวหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญในการพัฒนาด้านการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในระดับสูงภายใต้คณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน 

         อีกทั้งมีการดำเนินการอย่างจริงจังจนเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามการละเมิดในท้องตลาด นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด โดยมีการ่วมมือกันทำงานระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทหารทั้งสามเหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น ดำเนินการปราบปราบด้านการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจริงจังจนการละเมิดได้หมดสิ้นไปในหลายพื้นที่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2560 เป็นต้นมา รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อออกตรวจตราจับกุมใน 5 ย่านการค้าสำคัญ คือ ศูนย์การค้าเอ็มบีเค ตลาดนัดจตุจักร ตลาดโรงเกลือ (จังหวัดสระแก้ว) หาดป่าตอง และหาดกะรน (จังหวัดภูเก็ต) 
  
         นอกจากนี้ USTR ยังได้เห็นถึงความพยายามของไทยในการแก้ไขข้อกังวลของภาคเอกชนสหรัฐฯ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาโดยตรง เช่น การพัฒนาประสิทธิภาพในการจดทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า โดยเพิ่มจำนวนผู้ตรวจสอบ และปรับปรุงขั้นตอนการจดทะเบียน จนทำให้สามารถลดปริมาณงานค้างสะสมลงไปอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่จะยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่งแต่สามารถขอรับความคุ้มครองได้ในประเทศภาคีหลายประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่มิได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาโดยตรง เช่น การเสริมสร้างความโปร่งใสโดยเปิดให้มีการรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสียของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นประจำ ซึ่งช่วยคลายความกังวลของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องลงไปได้มาก
 
          สำหรับการปรับสถานะด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้กับประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น ได้ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุนของประเทศในสายตาของผู้ค้าและนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่มีการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพราะการคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สหรัฐฯ พิจารณาในการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ GSP ซึ่งสหรัฐฯ ให้แก่ประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงไทยด้วย
 
         นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่าความสำเร็จในครั้งนี้นอกจากเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในระดับนโยบายแล้วยังเป็นผลจากการปฏิบัติงานให้เป็นรูปธรรมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือกันทำงานอย่างบูรณาการ ซึ่งส่งผลต่ออนาคตประเทศไทยให้ยกระดับประเทศให้มีความก้าวหน้ามีการผลักดันเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนให้เติบโต ก้าวไปสู่การเป็นไทยแลนด์4.0
 
         “ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันมาอย่างเข้มแข็ง และเชื่อมั่นว่าจะมีการบูรณาการการทำงานเช่นนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป หลังจากมีการปรับสถานะของไทยออกจากบัญชี PWL จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของประเทศ ซึ่งไทยมีความพร้อมและก้าวหน้าในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย “Thailand 4.0” และนำประเทศไทยก้าวข้ามไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงและขอให้การปรับสถานะของไทยที่บรรลุผลในครั้งนี้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยทุกคน”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ