"จตุพร" เจอคุกจริง 12 เดือนไม่รอลงอาญา หมิ่น"อดีตนายกฯอภิสิทธิ์" สำนวนสอง
ส่วนฝ่ายโจทก์ มีนายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ รับมอบอำนาจนายอภิสิทธิ์โจทก์ มาร่วมฟังคำพิพากษา
ทั้งนี้ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ที่จำเลย ฎีกาสู้ว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นโดยสุจริตนั้น จากคลิปวีดีโอและสำเนาการถอดเทปการปราศรัยของนายจตุพร ทั้ง 2 ครั้ง ฟังได้ว่าจำเลยได้ปราศรัยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ มีจุดประสงค์ให้ประชาชนออกมาขับไล่โจทก์ในฐานะเป็นรัฐบาล ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาททำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชังและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงเป็นการใส่ร้ายโจทก์ตามฟ้อง
ส่วนที่จำเลย ฎีกาขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอลงอาญาด้วยนั้น ศาลพิจารณาเเล้วว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวนอกจากเป็นการกระทำให้โจทก์เสียหายแล้วมีลักษณะหมิ่นเหม่ พาดพิงกระทบสถาบัน จึงไม่สมควรรอการลงโทษ เเต่ในชั้นฎีกาคำฎีกาของจำเลยยอมรับว่าเป็นผู้ปราศรัย จึงเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
จึงพิพากษาเเก้โทษเป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 2 กระทงๆละ 6 เดือน เป็นจำคุก 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
อย่างไรก็ดี เมื่อศาลฎีกา มีคำพิพากษาให้จำคุกโดยไม่รอลงอาญา "นายจตุพร" ก็ต้องถูกคุมขังต่อไป โดยนับโทษต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.1962/2552 ที่หมิ่นนายอภิสิทธิ์ โดยปราศรัยปี 2552ทำนองว่า รัฐบาลภายใต้ทรราชฟันน้ำนม ที่ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกไว้ 1 ปีด้วยซึ่งขณะนี้มีคดีหมิ่นประมาทฯ นายอภิสิทธิ์ที่ถูกตัดสินให้จำคุกจริงแล้ว รวม 2 สำนวน
ขณะที่ สภาพร่างกายของ "นายจตุพร" ปัจจุบันผอมลง แต่วันนี้ที่เดินทางมาศาลก็ยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือไหว้สวัสดีทักทายผู้มาให้กำลังใจและสื่อมวบชน
โดยนายจตุพร เอง ก็กล่าวสั้นๆ ก่อนขึ้นห้องพิจารณาคดีว่า ช่วงที่เข้าเรือนจำน้ำหนักลดลงไป 28 กิโลกรัม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่วันนี้เมื่อฟังคำพิพากษาฎีกาคดีหมิ่นประมาทฯแล้ว นายจตุพร ก็ยังร่วมฟังการสืบพยานโจทก์คดีอัยการฟ้อง 24 แกนนำ นปช.ก่อการร้ายด้วย ซึ่งวันนี้ศาลก็ได้เบิกตัว นายยศวริศ ชูกล่อมหรือ เจ๋ง ดอกจิก และนายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. ที่ถูกคุมขังในคดีอื่น มาร่วมนัดสืบพยาน พร้อมกับจำเลยอื่นที่ได้รับการประกันตัวด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง