ร้องทุกข์ถูกเบี้ยวเงินค่าเวนคืนที่ดิน

 

               ชาวบ้านรายหนึ่ง ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้องติดหนี้สิน ทั้งจากธนาคารและหนี้นอกระบบ หลังจากที่กรมชลประทานไม่ยอมจ่ายค่าเวนคืนที่ดินมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

               ชาวบ้านคนดังกล่าว เปิดเผยพร้อมนำเอกสารการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาแจกแจงกับผู้สื่อข่าว ว่า เมื่อราวๆ ปี 2552 กรมชลประทานได้อนุมัติงบประมาณ 387,944,000 บาท เพื่อก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยทวย บ้านกระเสิม ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และตกลงว่าจ้างการก่อสร้างตามสัญญา เลขที่ กจ.14/2554 (กสพ.1) ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 เริ่มอายุสัญญาวันที่ 15 กันยายน 2552 ครบกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 2 มีนาคม 2555 รวมอายุสัญญา 900 วัน โดยระหว่างกำลังก่อสร้างได้มีเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานได้มาติดต่อแจ้งว่า จำเป็นจะต้องใช้ที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยตกลงว่าจะจ่ายค่าเวนคืนให้ในราคาไร่ละ 3 แสนบาท ซึ่งที่ดินของตนที่จะถูกเวนคืนมีจำนวนกว่า 20 ไร่ รวมเป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งตนได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเรื่อยมา โดยเจ้าหน้าที่ขอให้เห็นแก่งานก่อสร้างของทางราชการ ให้ตนยินยอมให้เข้าก่อสร้างในบริเวณที่ดินของตนก่อนที่จะได้รับเงินเวนคืน ซึ่งตนก็ยินยอมตามนั้น เพราะคิดว่าทางราชการคงจะรักษาสัญญาตามที่ได้ตกลงกันไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่คนเดิมได้มาติดต่อว่าเงินค่าเวนคืนใกล้จะได้แล้ว หากตนอยากได้เร็วก็ต้องยินยอมจ่ายค่าปากถุงให้เจ้าหน้าที่ประมาณหนึ่งในสามของเงินเวนคืน รวมแล้วประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่ามันมากเกินไป และขอต่อรองลงมาเหลือ 3 แสนบาท แต่เรื่องกลับเงียบหายไป จนถึงปัจจุบันตนยังไม่ได้รับเงินค่าเวนคืนสักบาทเดียว

 

 

               นอกจากนั้นยังมีที่ดินของน้าสาวตนอีกแปลงหนึ่งที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน แต่ที่ดินของน้าสาวถูกขุดเอาดินไปถมที่ในโครงการ จำนวนกว่า 5 ไร่ ความลึกของดินที่ถูกขุดไปลึกกว่า 5 เมตร โดยตกลงค่าเวนคืนไว้ในราคาไร่ละ 3 แสนบาทเช่นกัน แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าเวนคืนแต่อย่างใด

               หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีชาวบ้านบางรายได้รับเงินค่าเวนคืนไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากยินยอมตกลงจ่ายผลประโยชน์ให้แก่เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกับที่ได้มาติดต่อกับผู้ที่มาร้องทุกข์ โดยชาวบ้านคนดังกล่าวได้รับเงินเวนคืน 8 แสนบาท โดยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร แต่ต้องถอนเงินออกมาจ่ายให้เจ้าหน้าที่คนนั้นทันที 2 แสนบาท เป็นเงินสด ตามข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

               ชาวบ้านที่เดือดร้อน กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ตนต้องออกมาร้องทุกข์ในครั้งนี้ เนื่องจากตนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากทีแรกคิดว่าจะได้เงินจากการเวนคืน จึงได้กู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย ทั้งกู้จากธนาคารและกู้นอกระบบ โดยนำโฉนดที่ดินทั้งหมดที่มีไปเป็นหลักประกัน แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร เงินค่าเวรคืนก็ไม่ได้ แถมเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกมาช่วยแก้ไขปัญหาให้ตนด้วย