"บี พีระพัฒน์" ไม่อุทธรณ์คดีอดีตผจก.ส่วนตัว ยักยอกเงิน

 

          20 พ.ย. 60 - ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง 72/1 เวลา 13.30 น. พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องด้วยวาจา นายศุภวัฒน์ ทรัพย์อัมพร จำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ 

          โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนายพีระพัฒน์ เถรว่อง อายุ 45 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักร้อง ผู้เสียหายได้รับมอบหมายให้จำเลยจัดการหางานรับเงินต่างๆ ตามที่ผู้เสียหายรับงานแสดงตามที่ต่างๆ และส่งมอบให้แก่ผู้เสียหาย ครั้นระหว่างวันที่ 29 ก.ย. 2560 เวลากลางวันถึงวันที่ 17 พ.ย. 2560 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดผู้จัดหางานได้ว่าจ้างให้ผู้เสียหายไปแสดงดนตรีในพื้นที่ต่างๆ เช่น หาดใหญ่ จ.สงขลา กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายได้ไปแสดงตามปกติ โดยจำเลยได้รับเงินค่าจ้างจากการแสดงของลูกค้าของผู้เสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 938,800 บาทมาไว้ในความครอบครองของจำเลยแล้วจำเลยมีหน้าที่นำเงินของผู้เสียหายที่จำเลยรับไว้ในความครอบครองดังกล่าวส่งมอบให้แก่ผู้เสียหายตามหน้าที่ แต่จำเลยกลับไม่นำส่งมอบให้ผู้เสียหายตามหน้าที่ และในวันเวลาดังกล่าวจำเลยได้บังอาจเบียดบังเอาเงินดังกล่าวของผู้เสียหายไปใช้ประโยชน์ของตนโดยทุจริต อันเป็นการกระทำความผิด ฐานยักยอกทรัพย ์เหตุเกิดที่แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

          ต่อมาวันที่ 20 พ.ย. 2560 ภายหลังเกิดเหตุจำเลยเข้าพบพนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพ จำเลยถูกคุมตัวตลอดมาได้ส่งตัวจำเลยมาศาลฟ้องฟ้องนี้แล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่ 26 พ.ศ. 2560 มาตรา 4 และขอให้จำเลยคืนเงินให้หรือใช้เงินเป็นจำนวน 938,800 บาทแก่ผู้เสียหาย

          โดยเมื่อเวลา 15.00 น. ศาลพิพากษาว่า จำเลยทำผิดตามฟ้อง มาตรา 352 ให้จำคุก 2 ปี รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา และให้จำเลยชดใช้เงิน 938,800 บาท

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว ญาติของนายศุภวัฒน์ จำเลย ยังไม่มีหลักทรัพย์ มายื่นขอประกันตัวซึ่งการประกันต้องยื่นหลักทรัพย์ 1.5 แสนบาท ในช่วงเวลาก่อนสิ้นสุดเวลาราชการ 16.00 น. ดังนั้นหากในวันนี้ทางญาติไม่สามารถนำหลักทรัพย์มายื่นประกันตัวต่อศาลได้ นายศุภวัฒน์ จำเลยจะต้องถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป

          ภายหลังจาก นายพีระพัฒน์ และภรรยาได้ร่วมรับฟังคำพิพากษาที่อัยการได้ยื่นฟ้องอดีตผู้จัดการยักยอกเงินกว่า 9 แสนบาทเเล้ว 

          "นักร้องดัง" เปิดเผยว่า ขณะที่อยู่ในห้องพิจารณาด้วยกันนายศุภวัฒน์ ไม่ได้กล่าวขอโทษและพูดอะไรกับตน แต่เขาก็มีสีหน้าสลดเหมือนกันขณะที่ญาติ ของนายศุภวัฒน์ก็ได้พูดคุยเรื่องเงินที่ต้องชดใช้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการชำระ ส่วนถ้าญาติชดใช้เงินชดใช้ครบเเล้ว

          ในทางคดีตนจะถอนเเจ้งความหรือยอมความในความผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือไม่ในกรณีที่จำเลยยื่นอุทธรณ์ ตนยังไม่แน่ใจข้อกฎหมาย แต่ส่วนตัวตนพอใจคำพิพากษาเเละไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คดี ส่วนเงินที่เสียไปจะได้คืนครบหรือไม่ยังตอบอะไรไม่ได้ ก็ต้องรอพูดคุยในเรื่องนี้

          "ตอนนี้อยู่ในห้อง เขาไม่ได้เอ่ยคำว่าขอโทษ แต่ผมก็คิดว่ามันเลยคำนั้นมาแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร ผมให้อภัยเขาแล้ว ให้เขาไปขอโทษกับครอบครัวเขาดีกว่า" นักร้องดัง บี-พีระพัฒน์ กล่าวในตอนท้าย.

 

อ่านเพิ่มเติม "จำคุก 1 ปี" ไม่รอลงอาญา"อดีตผจก. บี พีระพัฒน์"