ข่าว

รวบแก๊งค้ามนุษย์ลวงหญิงไทยค้ากาม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ดีเอสไอ"จับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ หลอกหญิงไทยไปทำงานนวดแผนโบราณแต่บังคับค้ากาม ทารุณทางเพศที่เกาหลี ระบุเป็นตัวการรายสำคัญ เตือนอาขีพนวดในเกาหลีไม่ใช่งานถูกกฎหมาย 

           18 ต.ค.60 พ.ต.อ.ไพสิฐ. วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้รับการประสานข้อมูลจากองค์กรพัฒนาเอกชนว่ามีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณีในประเทศเกาหลี โดยหลอกลวงว่าจะพาไปทำงานนวดแผนไทย แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับมีการบังคับให้ค้าประเวณีอย่างทารุณ รวมทั้งยึดหนังสือเดินทาง และกักขังโดยมีบุคคลคอยควบคุมอยู่ตลอดเวลา

          จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐเกาหลีได้เข้าไปทลายซ่องเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย และจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวเกาหลี จำนวน 8 ราย พร้อมดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ และขยายผลการสอบสวนมายังผู้ร่วมขบวนการในประเทศไทยจนนำไปสู่การขออนุมัติเป็นคดีพิเศษที่ 41/2560 ในชั้นสอบสวนพบว่าคดีดังกล่าวมีการกระทำในลักษณะขบวนการอาชญากรรม จึงได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 10 ราย สัญชาติไทย 3 ราย และสัญชาติเกาหลี จำนวน 7 ราย โดยได้จับกุมตัวผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้ รายนายคิม ฮยอง จุน (Mr.Kim Hyoung Joon) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีได้เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาล

            พ.ต.ต.อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีการค้ามนุษย์ 3 กองคดีการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า. เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ท่ี่ผ่านมา เวลา 00.35 น. ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จับกุมตัว น.ส.ชัชฎาพร เจริญเนตร ผู้ต้องหาที่ 1 ในคดีได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ซึ่งผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในคดี ทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายชักชวนและหลอกลวงหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีผ่านโซเซียลมีเดียโดยอ้างว่าเป็นการเดินทางไปทำงานในร้านนวดแผนไทย มีที่พัก สวัสดิการ และรายได้ดี แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับถูกบังคับค้าประเวณีอย่างทารุณ และบังคับให้ร่วมเพศทางทวารหนัก ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อขยายผลจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีในต่างประเทศต่อไป

            ผู้เสียหายบางรายให้ข้อมูลว่า สมัครใจไปทำงานค้าประเวณี โดยเดินทางเข้าประเทศเกาหลีด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวแต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกทารุณทางเพศอย่างหนักโดยที่พักและสถานที่ทำงานตั้งอยู่ห่างไกลในย่านชานเมืองของเกาหลี จึงไม่สามารถหลบหนีได้. ซึ่งการบังคับค้าประเวณีแม้เดิมผู้เสียหายอาจสมัครใจแต่ก็เข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ที่รัฐบาลไทยและเกาหลีให้ความสำคัญในการปราบปราม

            ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนหญิงไทยที่จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศให้ระมัดระวัง เพราะอาชีพนวดไม่ใช่ประเภทแรงงานถูกกฎหมายของประเทศเกาหลี รูปแบบสถานบริการมักจะตั้งอยู่ในอพาร์ทเมนท์หรือแฟลต โดยแฝงการค้าประเวณีร่วมกับการบริการนวดแผนโบราณ นอกจากนี้ยังพบว่าขบวนการชักชวนหญิงไทยไปทำงานต่างประเทศยังมีความเกี่ยวพันกับการส่งหญิงชาวไทยไปลักลอบค้าประเวณีในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลี และประเทศในแถบตะวันออกกลาง

 

/////

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ