บัตรคนจนพ่นพิษใช้ขึ้นรถไฟที่ศรีสะเกษไม่ได้ 

               1 พ.ย. 60  ที่ สถานีรถไฟย่อย บ้านหนองแคน ตำบลหนองห้าง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ  ในทุกๆ เช้าจะมีชาวบ้านสำโรงน้อย , บ้านหนองบัว และบ้านนองแคน ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ เก็บผลผลิตทางการเกษตร ทั้งถั่วฟักยาว แตงกวา ข้าวโพด บวบ ถั่วต้ม ดักแด้ ข้าวเม้า กุ้ง ปลาสด และอื่นๆ มารอขึ้นรถไฟ เพื่อที่จะเดินทางไปขายสินค้าเกษตรจากสวนของตนเอง โดยขายทั้งบนขบวนรถไฟ และขายตามสถานีที่รถไฟจอด บางคนก็ขายที่จังหวัดสุรินทร์ , บุรีรัมย์ ศรีขรภูมิ สำโรงทาบ ซึ่งจะมารอขึ้นรถไฟขบวนดีเซลราง ระยะสั้น จากอุบลฯ - นครราชสีมา ตั้งแต่เช้า และจะเดินทางกลับมาบ้านอีกครั้งในช่วงเย็นๆ ภายหลังจากขายสินค้าทางการเกษตรหมดแล้ว ทำเช่นนี้มากว่า 20 ปี ขณะที่เมื่อปีที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ได้โดยสารรถไฟฟรี แต่นับจากวันนี้ (1 พ.ย.) ที่จะต้องจ่ายค่าโดยสาร ในส่วนผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จะได้ใช้รูดจ่ายค่าโดยสาร แต่ในสถานีย่อยบ้านหนองแคนแห่งนี้ ไม่มีเครื่องที่จะใช้รูดจ่าย จึงทำให้ต้องจ่ายค่ารถไฟเองไปก่อน เฉลี่ยไปกลับรวมค่าสิ่งของโดยสาร ตกวันละ 80 บาท

               คุณยายบัว เสาศิริ วัย 65 ปี เกษตรกรรายหนึ่ง กล่าวว่า ตามที่ตนเองรับฟังข่าวในรายการเดินหน้าประเทศไทย และข่าวของทางราชการ รับทราบพร้อมๆ กับชาวบ้านในหมู่บ้านว่า วันนี้เป็นวันแรกของการยกเลิกการเดินทางรถไฟฟรี แต่ให้คนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้บัตรจ่ายค่ารถไฟไทยได้ จากทุกวันที่เคยโดยสารฟรีมาตลอดระยะเวลา 2 - 3 ปี ซึ่งชาวบ้านในแถบนี้ราวๆ 50 - 100 คน จะปลูกพืชผักสวนครัว และเก็บใส่ตระกร้าขึ้นรถไฟเดินทางไปขายยังจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ตามสายทางที่รถไฟผ่าน มีอาชีพเช่นนี้มาตลอด 20 ปีแล้ว ซึ่งวันนี้วันแรกที่จะได้ใช้บัตรคนจนจ่ายค่ารถไฟ แต่ปรากฏว่า ในสถานีจอดรถไฟบ้านหนองแคนแห่งนี้ ไม่มีนายสถานี ไม่มีเครื่องรูดบัตร จึงต้องจ่ายค่ารถไฟเอง ซึ่งชาวบ้านเดินทางไป - กลับ ในการขายพืชผักที่พวกตนปลูกได้ในทุกๆ วัน เฉลี่ยวันละ 80 - 100 บาท ก็จะเพิ่มรายจ่ายของครอบครัว และวันนี้พบว่าหลายคนไม่นำพืชผักไปขาย เพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารถไฟ รอๆ ดูว่าจะจ่ายผ่านบัตรได้หรือไม่ก่อน และคนที่ไม่มีบัตรก็อาจจะเลือกเดินทางแบบอื่นๆ หรืออาชีพอื่น เพราะขายพืชผักวันหนึ่งๆ จะมีรายได้เพียง 400 - 500 บาทเท่านั้น