ข่าว

"รอง นายก อบต." ยังโดนสวมทะเบียนรถ เร่งตรวจสอบหลังถูกใบสั่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ไพบูลย์" รองนายก อบต.บ้านปทุม ชี้กรอบทะเบียน-กระจังหน้ารถ-สติกเกอร์ติดรถ ต่างกันชัดเจน-แจ้ง ตร.ลงบันทึกประจำวัน วอนเร่งตรวจสอบป้องกันรถสวมทะเบียนก่ออาชญากรรม

          29 ต.ค.60 - เมื่อเวลา 15.30 น. นายไพบูลย์ เกิดบุญนิรันดร อายุ 57 ปี รองนายก อบต.บ้านปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้เปิดเผยข้อมูลได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจร โดยยืนยันไม่ใช้รถยนต์ของตนเอง แต่หลายเลขป้ายทะเบียนกลับเหมือนกัน จึงคาดว่ามีการสวมทะเบียนเกิดขึ้น โดยเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบภาพในใบสั่ง พบเป็นรถแท็กซี่ สีเขียวเหลืองยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียนสีเหลือง หมายเลข 1มก 2386 กรุงเทพมหานคร โดยลักษณะของรถยนต์และหมายเลขทะเบียน เหมือนกับรถยนต์ของตนเอง แต่จากต่างกันที่กรอบของป้ายทะเบียนซึ่งรถในภาพใบสั่งจะเป็นกรอบทะเบียนแต่งมีขัดขั้น ส่วนป้ายทะเบียนของตนนั้นเป็นกรอบธรรมดา กระจังหน้ารถในภาพใบสั่งเป็นกระจังสีเงินเงา แต่รถยนต์ของตนนั้นเป็นกระจังสีเขียว และการติดสติกเกอร์บริเวณกระจกหน้ารถก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งเห็นว่ามีหลายจุดที่ไม่เหมือนกัน

          นายไพบูลย์ รองนายก อบต.บ้านปทุม กล่าวอีกว่า ตนได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจร ตู้กำแพงเพชร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ข้อหาไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรพื้นถนน ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา 21 และมาตรา 152 เมื่อวันที่ 29 ก.ย.60 เวลา 12.02 น. บนถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ระบุค่าปรับ 500 บาท โดยวันที่เกิดเหตุตนจอดรถไว้ที่บ้าน และไปทำงานที่ อบต.บ้านปทุม เนื่องจากตนเองจะขับรถแท็กซี่เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ส่วนวันที่เกิดเหตุในใบสั่งเป็นวันศุกร์ 

 

"รอง นายก อบต." ยังโดนสวมทะเบียนรถ เร่งตรวจสอบหลังถูกใบสั่ง

        "เมื่อได้รับใบสั่งจึงแปลกใจและตรวจสอบพบว่าป้ายทะเบียนมีตัวเลขที่เหมือนกัน พอรถคันนั้นทำผิดกฎหมายตำรวจก็ส่งใบสั่งไป แต่ข้อมูลที่ตำรวจมีแค่คันเดียว คันที่มีทะเบียนจริงซึ่งคือเราจะได้รับ แต่คันที่ทำผิดจริงจะไม่ได้ นั่นเท่ากับคนกระทำผิดไม่ได้รับโทษ แต่คนที่ไม่ได้ทำกลับโดน จึงได้เข้าไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน คาดปัญหามาจากการสวมทะเบียนรถยนต์"

       รองนายก อบต.บ้านปทุม กล่าวย้ำอีกว่า จากการที่มีใบสั่งออกมาตนก็กังวลใจ หากมีการสวมป้ายทะเบียนแบบนี้อาจจะทำให้ตนเองเกิดปัญหาในการทำงานได้ เพราะหากไปก่อเหตุอาชญากรรมหรือเกี่ยวข้องกับสารเสพติดผิดกฎหมาย ความเดือดร้อนก็จะมาตกที่ตนเอง จึงอยากให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ