ครั้งแรกครั้งเดียวในชีวิตชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ

   
       เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 60- ที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง หน้าศาลหลักเมือง ในบริเวณข้างมณฑลพิธีท้องสนามหลวง คณะกรรมการอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้จัดการซ้อมใหญ่การเดินริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 1, 2 และ 3 เสมือนจริง ณ พื้นที่และตามเวลาหมายกำหนดการจริงครั้งสุดท้าย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

   

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศประชาชนที่มารอชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.ที่เปิดจุดคัดกรอง ประชาชนจำนวนแต่งกายด้วยชุดสุภาพสีดำทยอยเดินทางมาเข้าจับจองพื้นที่นั่งบริเวณฟุตบาทฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ถนนศาลหลักเมือง ถนนราชดำเนินใน นอกจากนี้ ระหว่างรอชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ มีจิตอาสามาคอยดูแล อำนวยความสะดวก นำอาหาร น้ำ มาบริการแก่ประชาชนด้วย

      ทั้งนี้ มีจุดคัดกรอง 9 จุด ได้แก่ บริเวณแยกสะพานมอญ ท่าช้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม่พระธรณีบีบมวยผม ถนนกัลยาณไมตรี แยกสะพานช้างโรงสี แยกวัดพระเชตุพนฯ ท่าพระจันทร์ และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า

   

   ป้าพิมพ์ อายุ 67 ปี บอกว่า เดินทางมาจากบ้านย่านบางนา เพื่อมารอเข้าชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะตั้งใจอยากมาชมริ้วขบวนให้ได้สักครั้ง ต่อให้ต้องรอนานแค่ไหนก็จะรอ เพราะอยากมาอยู่ให้ใกล้ เห็นด้วยตาตนเองมากที่สุด ที่ผ่านมามีโอกาสไปกราบถวายบังคมพระบรมศพมาแล้ว 2 ครั้ง 

     "ป้ารักพระองค์มาก แต่ไม่รู้จะบอกเป็นคำพูดยังไงได้หมด เพราะพูดไม่เก่ง ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสได้มาชมการซ้อมริ้วขบวน วันนี้เป็นครั้งแรกและรู้ว่าเป็นการซ้อมครั้งสุดท้ายจึงตั้งใจว่าต้องมาให้ได้ เพราะอยากมาชมการซ้อม เพราะอยากจะมาอยู่ใกล้พระองค์มากที่สุด แล้วก็ดูแลตัวเองเตรียมยา อาหารมาจะปฏิบัติตัวตามที่มีการแจ้งไว้เพื่อถวายพระเกียรติแก่พระองค์"ป้าพิม กล่าว

      2 พี่น้องสุวรรณจินดา ดร.เขมจุฑา  และพญ.อัจจิมา ประชาชนที่มาร่วมชมการซ้อมริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ  กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้มาส่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่9 สู่สวรรคาลัย ให้ใกล้พระองค์ท่านให้มากที่สุด เพราะแม้จะอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือชมทางโทรทัศน์ได้ แต่อยากมาร่วมบรรยากาศ เพราะนี่คงเป็นครั้งเดียวในชีวิต 

(ซ้าย) ดร.เขมจุฑา พญ.อัจจิมา สุวรรณจินดา

       "ได้เดินทางมานอนที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ตั้งแต่คืนวันที่ 20 ต.ค.2560 เพื่อจะได้เดินทางมายังบริเวณสนามหลวงสะดวกและเช้ามืด และตอนนี้ได้ลงจองที่พักตั้งแต่วันที่25-27 ต.ค.2560 เพื่อร่วมชมริ้วขบวนพระราชอิสริยยศและร่วมพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงร.9 โดยก่อนหน้านี้ ก็ได้มากราบพระบรมศพ จำนวน13 ครั้ง เพื่อถวายอาลัยแก่พระองค์ท่าน อย่างไรก็ตาม ต่อให้พระองค์ท่านไม่ได้อยู่กับพวกเราในโลกนี้ แต่ทุกคนสามารถนำหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในการดำเนินชีวิต และพระองค์จะอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป"2พี่น้องสุวรรณจินดากล่าว

     ขณะนี้น.ส.ดวงเดือน สังขะชาดา และเพื่อนๆ ร่วมกันเล่าว่า หลังจากเลิกงานเวลา5โมงเย็นได้เดินทางมาบริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่2ทุ่มของคืนวันที่ 20 ต.ค.2560 เพื่อร่วมชมริ้วขบวนพระราชอิสริยยศและ โดยครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้มาชมและถือเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน เพราะต่อให้ไม่ได้นอนแต่ก็อยากมาที่ท้องสนามหลวง 

        "พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างแก่คนไทยในหลายๆเรื่องและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ต่อปวงชนชาวไทยนั้นมีมากล้น พวกตนในฐานะประชาชนชาวไทยอยากแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์และร่วมถวายอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่ทั้งนี้ ต่อให้พระองค์ไม่ได้อยู่กับพวกเราชาวไทยบนโลกใบนี้ แต่คำสอน หลักในการใช้ชีวิต ทำงานจะเป็นสิ่งที่อยู่กับคนไทยตลอดไป"น.ส.ดวงเดือน กล่าว