ข่าว

ให้เงิน 2 หมื่นเป็นบทเรียนสอนลูก !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แม่โอดให้มือถือลูกเล่นเกม ROV ใช้รหัสบัตรซื้อไอเท็มครั้งละ 35-99 บาท 6 วัน หมดเกือบ 20,000 บาท รองปลัดยธ.เผยยังไม่เห็นทางช่วย ถือเป็นบทเรียนสอนลูก


          19 ต.ค. 60 - จากกรณี เพจ แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์ภาพข้อความอุทาหรณ์ แม่ให้มือถือลูก 11 ขวบเอาไปเล่นเกม 5 วัน เงินในบัญชีเกือบ 2 หมื่น เหลือ 2 บาท (อ่านต่อ... แม่สตั๊นท์ 2 หมื่นเหลือ 2 บาท !! ให้มือถือลูกไปเล่นเกม )

           ฟ้า (นามสมมุติ) แม่เด็กชายวัย 11 ปี ที่ใช้โทรศัพท์มือถือเล่นเกม ROV ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. จนถึงวันที่ 16 ต.ค. ใช้บัตรเอทีเอ็มแม่ซื้อไอเท็มในเกมตั้งแต่วันที่ 11-16 ต.ค. จนเงินในบัญชีธนาคารเหลืออยู่เพียง 2 บาท เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้นำสมุดเงินฝากเข้าไปติดต่อเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการตัดยอดเงินในบัญชี เพราะตนจ่ายเงินเพื่อให้ธนาคารแจ้งเตือนเมื่อมียอดเงินฝากและถอนออกจากบัญชี แต่ระหว่างเกิดเหตุไม่มีข้อความแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวของเงินในบัญชี จนกระทั่งตนไม่สามารถถอนเงินจากบัตรเอทีเอ็มได้ เบื้องต้นธนาคารแจ้งว่าธนาคารจะส่งข้อความแจ้งเตือนเมื่อมียอดเคลื่อนไหวตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการตัดยอดครั้งละ 99 บาท และ 35 บาทต่อครั้ง ระบบจึงไม่ได้ส่งข้อความแจ้งเตือน ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจในระบบของธนาคาร เพราะมีการตัดยอดหลายครั้งจนวงเงินสูงถึง 10,000 บาทต่อวัน 
          สำหรับลูกชายของตนพักอาศัยอยู่กับปู่ย่าใน จ.อุบลราชธานี ส่วนตนเข้ามาทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนในกรุงเทพฯ ปกติในช่วงเปิดเทอมลูกชายจะไม่ได้รับอนุญาตให้เล่นเกม แต่ในช่วงปิดเทอมลูกมาขออนุญาตตนจึงนำโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วให้ลูกใช้เล่นเกม โดยเป็นโทรศัพท์ในระบบเติมเงิน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาเพราะจะเติมเงินให้ครั้งละ 20-50 บาท ส่วนเกม ROV เป็นเกมชื่อดังได้รับความนิยมสูง คาดว่าลูกชายจะใช้อีเมลล์ของตนที่เป็นข้อมูลค้างอยู่ในเครื่องเก่านำไปกรอกสมัครเล่นเกม เพราะเกมดังกล่าวมีเงื่อนไขให้ผู้เล่นต้องมีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่ทราบชัดว่าข้อมูลบัตรเอทีเอ็มที่ลูกนำไปใช้ซื้อไอเท็มต่างๆ ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเกมดังกล่าวได้อย่างไร ขณะนี้กำลังปรึกษาเพื่อนและหน่วยงานต่างๆว่า จะมีทางเรียกร้องเงินกลับคืนมาได้บ้างหรือไม่ หากเรียกคืนไม่ได้ก็ต้องการให้กรณีของตนเป็นอุทธาหรณ์ให้กับผู้ปกครองอื่นๆ 
          ด้านนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีแม่นำโทรศัพท์มือถือไปให้ลูกเล่นเกมแล้วใช้บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตซื้อไอเท็มต่างๆนั้น อยู่นอกเหนือการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงยุติธรรม เพราะแม่เป็นผู้อนุญาตให้เด็กใช้โทรศัพท์ และยอมให้หักเงินจากบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิต เพราะลำพังเด็กไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของแม่ได้หากไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้เกมออนไลน์ต่างๆ ยังกำหนดเงื่อนไขในการสมัครเข้าใช้งานว่า ผู้เล่นต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป กรณีที่เกิดขึ้นขอให้เงิน 20,000 บาทที่เสียไปจะถูกนำไปใช้เป็นบทเรียนในการสอนลูก ว่าการเล่นเกมของลูกทำให้แม่ต้องเสียเงินเก็บไปถึง 20,000 บาท รวมถึงเป็นบทเรียนในการสอดส่องดูแลลูกไม่ให้มีภาวะเป็นเด็กติดเกมด้วย.

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ