ข่าว

ประทับใจ ในหลวง ร.9 ทรงห่วงใยความเจ็บป่วยของประชาชน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บรรยากาศการเดินทางไปถวายดอกไม้ พวงมาลัยดอกไม้สดของประชาชนเบื้องหน้าซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

      ประทับใจ ในหลวง ร.9 ทรงห่วงใยความเจ็บป่วยของประชาชน

      วันที่ 14 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางไปถวายดอกไม้ พวงมาลัยดอกไม้สดของประชาชนเบื้องหน้าซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ริมกำแพงด้านนอกบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 4 ซึ่งสำนักพระราชวังเปิดให้ถวายสักการะได้ตลอด 24 ชม.นั้น มีประชาชนต่างแต่งกายด้วยชุดสีดำสุภาพทยอยนำพวงมาลัยดอกไม้สดมาถวายสักการะอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาพอากาศแดดจัด และมีฝนโปรยปรายในช่วงบ่าย

       นายศักดิ์นาวี บุตะลา อายุ 38 ปี ชาวอ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่มาพร้อมภรรยา นางมะลิวัลย์ บุตะลา อายุ 37 ปี และลูกๆ ด.ญ.ศิรประภา บุตะลา อายุ 11 ปี และ ด.ช.วชิรวิทย์ บุตะลา อายุ 7 ปี กล่าวหลังจากเข้าวางพวงมาลัยดอกดาวเรืองถวายสักการะว่า ออกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากบ้านพักเวลา 07.00 น.มาถึงท้องสนามหลวงเวลา 09.00 น. ใกล้วันถวายพระเพลิงพระบรมศพเข้ามาทุกที จึงอยากมากราบพระองค์ท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนหน้านี้เคยเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว 5 ครั้ง รู้สึกปลาบปลื้มใจทุกครั้งที่ได้มา

      ประทับใจ ในหลวง ร.9 ทรงห่วงใยความเจ็บป่วยของประชาชน

 

          "สมัยเด็กๆ พอถึงเวลา 2 ทุ่ม ต้องมานั่งเฝ้าหน้าโทรทัศน์ดูข่าวพระราชสำนัก ได้เห็นว่าพระองค์เสด็จฯ ไปบำบัดทุกข์ประชาชนที่นั่นที่นี่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้เราทราบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำ ตั้งแต่เกิดไม่เคยมีโอกาสรับเสด็จสักครั้ง ตอนอยู่สกลนครบ้านเกิด ในหลวง ร.9 กับพระราชินีเสด็จฯ ไปแปรพระราชฐานที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ มีหน่วยแพทย์พระราชทานมาด้วย แม่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ได้เข้าเฝ้าและตรวจอาการ และพระราชินีได้รับแม่ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ภูมิใจที่พระองค์ทรงมองเห็นความทุกข์ยากเจ็บป่วยของประชาชน วันนี้แม้จะทรงจากพวกเราไปแล้ว สิ่งที่คิดไว้สิ่งที่ตั้งใจจะทำคือทำทุกอย่างที่เป็นเรื่องดีๆ เท่าที่สามารถทำได้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล" นายศักดิ์นาวี กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ

    นายภาณุวัฒน์ โพนเงิน อายุ 59 ปี ข้าราชการ จาก อ.เมือง จ.มหาสารคาม เดินทางโดยรถโดยสารประจำมาเพียงลำพัง ด้วยความตั้งใจที่จะมาถวายพวงมาลัยในวันนี้เปิดเผยว่า ยังไม่เคยมีโอกาสเข้ากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทำให้วันนี้รู้สึกตื้นตันใจที่สุด ที่ได้เข้ามากราบพระองค์ แม้ว่าจะเป็นเพียงด้านนอกของกำแพงวังก็ตาม 

      ประทับใจ ในหลวง ร.9 ทรงห่วงใยความเจ็บป่วยของประชาชน

          “อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 แล้ว ผมตั้งใจไว้ว่าจะดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มาร่วมในพระราชพิธีสำคัญที่พระเมรุมาศจำลอง หน้าศาลากลาง จ.มหาสารคาม ในฐานะที่เป็นข้าราชการ ฝก็ได้น้อมนำความดีที่พระองค์ทำมาตลอดพระชนม์ชีพ มาใช้ในการทำงาน ด้วยการบริการประชาชนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รวมถึงการดำเนินชีวิตด้วยการทำความดีตลอดไปด้วย” นายภาณุวัฒน์ เผย

      ขณะที่ นางศรีพรรณ มาวินิจฉัย อายุ 62 ปี และนางสมจิต พงษ์สุราษฏร์ อายุ 69 ปี อาชีพค้าขาย พสกนิกรจาก อ.เมือง จ.ลำพูน ทั้งสองคนเดินทางมาถวายพวงมาลัยตั้งแต่เช้า  นางศรีพรรณ เปิดเผยด้วยเสียงสั่นเครือว่า ที่ผ่านมาตนร้องไห้ทุกวัน รู้สึกว้าเหว่ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็เห็นในหลวง ร.9 มาตลอดพระชนม์ชีพ ยิ่งวันนี้มากราบอย่างใกล้ชิดก็รู้สึกตื้นตันใจมากแล้ว 

  ประทับใจ ในหลวง ร.9 ทรงห่วงใยความเจ็บป่วยของประชาชน

    “ในหลวง ร.9 เคยเสร็จฯ มา จ.ลำพูน จำได้ว่าตอนนั้นยังเล็กนัก พ่อได้พาขี่คอเพื่อไปรับเสด็จ ทำให้ได้เห็นในหลวง ร.9 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงพระสิริโฉมงดงามมาก ทั้งสองพระองค์เคียงคู่กัน ยังเป็นความทรงจำที่จำได้จนถึงทุกวันนี้ นึกถึงกี่ครั้งก็อุ่นใจ เหมือนมีพระองค์คอยเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต ที่ผ่านมาก็บำเพ็ญตนเป็นจิตอาสามาโดยตลอด ทั้งนี้ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ก็จะตั้งใจเป็นจิตอาสาด้วย” นางศรีพรรณ เผย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ