บังคับคดี ยอดขายทะลุเป้าสูงสุดในรอบ 7 ปี

          12 ต.ค.60 - น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี แถลงผลงานปีงบประมาณ 2560 ว่า ผลการดำเนินการในเชิงรุกของกรมบังคับคดีทั้งการผลักดันทรัพย์สิน และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี การปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการบังคับคดี การแก้ไขกฎหมายการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบังคับคดี และการนำอิเล็กทรอนิกส์มาให้บริการ ส่งผลให้การดำเนินการในปีงบประมาณ 2560 มีผลงานในการผลักดันทรัพย์สินได้กว่า 129,043 ล้านบาท จากเป้าหมาย 100,000 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี สามารถผลักดันทรัพย์สินได้สูงกว่าปี 2559 ร้อยละ 22.69 , 98.82 และ 10.38 ตามลำดับ และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีสูงกว่าผลงานปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 58.58 คิดเป็นทุนทรัพย์ 6,380 ล้านบาท รวมทั้งสามารถพัฒนาระบบให้สามารถคืนเงินให้เจ้าหนี้ได้ภายใน 45 วัน 

          อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานของกรมบังคับคดีในปีงบประมาณ 2561 กรมบังคับคดีมุ่งพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง โดยนำยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาเป็นแนวทางในการกำหนดยุทธศาสตร์กรมบังคับคดี และแผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยเน้นให้ความเป็นธรรม ง่าย สะดวก และรวดเร็ว เสริมสร้างความเติบโตและการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลักดันทรัพย์สินด้วยการเร่งรัดการกำหนดราคาทรัพย์และเร่งรัดประกาศขายทอดตลาด ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายการผลักดันทรัพย์สินทั้งปี จำนวน 110,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ของเป้าหมายปี 2560 ซึ่งจากหลายปัจจัยทำให้เชื่อว่าจะสามารถผลักดันขายทรัพย์ได้เกินเป้า โดยประมาณกลางเดือนธ.ค.ก็จะนำทรัพย์เป็นที่ดินในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 1,600 ไร่ ในคดีสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด มาขายทอดตลาด

          ส่วนด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดี กรมบังคับคดียังคงใช้กลยุทธ์ เชิงรุก เชิงลึก และครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยประสานเจ้าหนี้กลุ่มใหม่ทำงานลงพื้นที่เชิงรุก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกหนี้เพื่อให้มีวินัยทางการเงิน พร้อมทั้งช่วยลดปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการบังคับคดี ลดการถูกยึดทรัพย์ การขายทอดตลาด และการอายัดทรัพย์สินต่างๆ ของลูกหนี้ เพิ่มโอกาสในการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ 
          น.ส.รื่นวดี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการบริหารจัดการคดีค้าง 10 ปี และคดียุ่งยากไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ร้อยละ 30 ดังนั้น ในปีงบประมาณนี้จะเร่งรัดให้สำเร็จตามเป้า นอกจากนี้ มีบทบาทในการแก้ไขหนี้สินให้กับเกษตรกรด้วยการปรับโครงสร้างหนี้หรือรีไฟแนนซ์ในชั้นบังคับคดี ไกล่เกลี่ยสำเร็จ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อนุมัติเงินกู้ให้ใหม่ 67 คดี ทุนทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท สำหรับบทบาทในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมีคดียาเสพติดเข้าสู่การบังคับคดี 2,526 คดี ทุนทรัพย์ 1,066 ล้านบาท ราคาประเมิน 95 ล้านบาท ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว 921 คดี ทุนทรัพย์ 357 ล้านบาท นำเงินส่งศาลแล้วกว่า 24 ล้านบาท.