ข่าว

"สมาชิกคลองจั่น"สุดทน ! ไร้สภาพคล่องฟ้องล้มละลายสหกรณ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ไพบูลย์"โต้โผพาเหยื่อฟ้องศาลสั่งสหกรณ์คลองจั่นล้มละลาย พ้นแผนฟื้นฟู หลังลุยฟ้องคดีอาญาทุจริต ขณะที่ศาลล้มละลายรอไต่สวน 30 ต.ค.นี้

            20 ก.ย.60 ที่ศาลล้มละลายกลาง ถ.แจ้งวัฒนะนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และนายธรรมนูญ อัตโชติ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากประชาชนผู้เสียหายจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 275 คน เดินทางยื่นฟ้อง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด , นายประกิต พิลังกาสา ประธานกรรมการดำเนินการ และประธานกลุ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูสหกรณ์ฯและนายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานที่ปรึกษาสหกรณ์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483

           โดยโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสาม ได้ทำสัญญาประนีประนอม กับบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ในการจำหน่าย จ่าย โอน ทรัพยสิทธิในที่ดิน ตั๋วแลกเงิน และหุ้นของบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด โดยไม่แจ้งให้พวกโจทก์ทราบ ทำให้โจทก์ชึ่งเป็นประชาชนในฐานะเจ้าหนี้จำนวน 275 คนได้รับความเสียหาย อันเป็นการกระทำความผิดอาญา ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  จำเลยที่ 1 ก็ยังไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับคำสั่งศาลล้มละลายกลางด้วยที่สั่งให้ชำระหนี้แก่ประชาชนกว่า 100 ราย แต่กลับกลั่นแกล้งหน่วงเหนี่ยวให้ประชาชนในฐานะเจ้าหนี้ ไม่ได้รับการชำระหนี้ตามคำสั่งศาล และเมื่อปรากฎพฤติการณ์ที่สหกรณ์เครดิตฯในฐานะลูกหนี้และผู้บริหารแผนได้มีการกระทำผิดกฏหมายโดยทุจริต ทั้งมีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่มีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการได้อีกต่อไป 

           ดังนั้นโจทก์ทั้ง 275 คนซึ่งเป็นประชาชนผู้เสียหาย จึงขอให้ศาลล้มละลายกลาง มีคำพิพากษาให้สหกรณ์เครดิตฯ พ้นจากการฟื้นฟูกิจการ และขอให้เป็นบุคคลล้มละลายด้วย 

           ทั้งนี้ศาลล้มละลายกลาง ได้รับคำฟ้องไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 30 ต.ค. นี้ เวลา 09.00 น.
                ขณะที่นายไพบูลย์ ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า หากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย จะมีผลทำให้ประชาชนผู้เสียหายประมาณ 5,400 คน  มีสิทธิขอแบ่งทรัพย์สินโดยตรงจากกองทรัพย์สินคดีฟอกเงินที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองทรัพย์สินของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นด้วย โดยประชาชนไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายทนายและค่ารักษากิจการ ประมาณปีละ 100 ล้านบาท และไม่ต้องรอทยอยรับเงินนานถึง 26 ปี ตามแผนฟื้นฟูกิจการ 

           ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับกรณีการบริหารงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.60 นายธรรมนูญ อัตโชติ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากประชาชนผู้เสียหายจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ก็เป็นตัวแทนผู้เสียหายรวม 665 ราย ยื่นฟ้องนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ , นายบุญเสริม ไกรสินธุ์ อดีตผอ.สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์พื้นที่ 2 และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นจำเลยที่ 1-3 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และทุจริตฐานฉ้อโกงประชาชน มาตรา 341, 343 และความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประมาชน มาตรา 4, 5 เนื่องจากร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือสหกรณ์คลองจั่น 

           ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตฯได้รับคำฟ้องไว้ในสารบบความเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.325/2560

           และในส่วนของการชดใช้ให้กับสมาชิกสหกรณ์นั้น ช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมาศาลปกครองกลางทยอยมีคำพิพากษา ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ยื่นฟ้องคดีตั้งปี 2556  หลายสำนวนคดี โดยศาลปกครองกลางเห็นว่ากรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย เพื่อระงับยับยั้งการกระทำที่ไม่ชอบของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯและอดีตคณะกรรมการสหกรณ์ ปล่อยให้มีการกระทำความผิดเป็นเวลากว่า 10 ปี ทั้งการปล่อยเงินกู้ให้บุคคลภายนอกไม่ชอบด้วยกฎหมาย

           โดยปัจจุบันเอง นายศุภชัย อดีต ปธ.สหกรณ์ฯ ก็ถูกฟ้องดำเนินคดีอาญาในศาลอาญาหลายสำนวนทั้งข้อหายักยอกทรัพย์  , ฉ้อโกงประชาชน และร่วมกับพวกฟอกเงิน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ