"กรมบังคับคดี"ปลื้มซุปเปอร์โพลล์ชี้ ปชช. 98.4 % เชื่อมั่นการทำงาน ขายทอดตลาดโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์คู่ความ.
20 ก.ย. 60 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วยนายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ร่วมแถลงผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี
น.ส.รื่นวดี กล่าวว่า กรมบังคับคดีได้ร่วมกับบริษัทซูเปอร์โพลทำการสำรวจความเชื่อมั่นประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกรมบังคับคดี เพื่อสำรวจการรับรู้และความเข้าใจ ตลอดจนความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการ ผู้มีส่วนได้เสีย หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกรมบังคับคดีตามยุทธศาสตร์ที่ระบุให้ดำเนินการตอบสนองความต้องการของประชาชนและภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ อีกทั้งจะเป็นการปรับปรุงและพัฒนางานของกรมบังคับคดี ซึ่งถือว่าการสำรวจความเชื่อมั่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของกระบวนการยุติธรรมไทย โดยที่ผ่านมามีการประเมินประสิทธิภาพการทำงานภายใน แต่จะได้รับความน่าเชื่อถือหากได้รับการสำรวจจากหน่วยงานภายนอกด้วย โดยเฉพาะการขายทอดตลาดที่ผ่านมาได้ยินเสียงวิจารณ์ แต่ผลสำรวจพบว่ามีความโปร่งใส
ด้านนายนพดล กล่าวว่า การสำรวจได้ใช้หลักมาตรฐานสากลในการวัดความเชื่อมั่นประชาชน โดยลงพื้นที่สำรวจประชากรกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เจ้าหน้าที่และลูกหนี้ทั่วประเทศ จำนวน 1,080 คน และสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหารหรือบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ศาล สภาทนายความ สถาบันการเงิน พร้อมจัดสนทนากลุ่ม เพื่อสำรวจความคาดหวังของประชาชนและการเห็นปฏิบัติจริงเกี่ยวกับกระบวนการบังคับคดีใน 5 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการบังคับคดีแพ่ง พบว่าร้อยละ 85.8 มีความเชื่อมั่น 2.ด้านการบังคับคดีล้มละลาย พบว่าร้อยละ 91.3 มีความเชื่อมั่น 3.ด้านการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ พบว่าร้อยละ 88.0 มีความเชื่อมั่น 4.ด้านการไกล่เกลี่ย พบว่าร้อยละ 82.1 มีความเชื่อมั่น และ 5. ด้านการติดตามและเฉลี่ยทรัพย์ในคดีล้มละลาย พบว่ามีความเชื่อมั่นร้อยละ 90.2
โดยผลการสำรวจภาพรวมพบว่า การทำงานของกรมบังคับคดีมีส่วนช่วยการค้า การลงทุนและส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ คิดเป็นร้อยละ 98.4 การทำงานของกรมบังคับคดีมีส่วนช่วยการค้า การลงทุนและส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในระดับค่อนข้างมากถึงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 66.2 ขณะที่การทำงานของเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีในภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลชุดก่อน คิดเป็นร้อยละ 86.3
นายนพดล กล่าวด้วยว่า ส่วนกระบวนการขายทอดตลาด ผลสำรวจพบว่ามีความโปร่งใสเป็นธรรม ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้อยละ 89.9 ผลการศึกษามีส่วนที่ต้องเร่งปรับปรุงในอันดับแรกคือ เรื่องการอบรมให้ความรู้ประชาชนเรื่องการให้ความรู้คดีแพ่ง ทั้งนี้ ผลการศึกษาข้างต้นมีแนวทางในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการที่สำคัญ ได้แก่ กรมบังคับคดีควรส่งเสริมและรักษาระบบบังคับคดีที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนและภาพรวมของเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานพัฒนาศักยภาพการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการด้านคดีแพ่งในเชิงรุก โดยเน้นสื่อองค์ความรู้ให้ครอบคลุมทุกภารกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง