สัมผัสชีวิต "หนุ่มกัมพูชา" พูดได้ 5 ภาษา ในจังหวะชีวิต ที่เต็มไปด้วยสีสรร มีพลังแห่ง"ความฝัน" ที่รอวันถักทอ..ฝันนั้นให้เป็น"ความจริง"
“ผมซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านได้พระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องทุนการศึกษา กระผมจะตั้งใจเรียน นำความรู้ที่ได้ ไปปรับใช้ และพัฒนาในการทำงานในอนาคต” MR.HENGLONG LY(เฮ ลอง ลี) หรือ “น๊าฟ” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ คณะบริหารธุรกิจ 1 ใน 50 นักศึกษาโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เฮ ลอง ลี เล่าว่า มีโอกาสได้ติดตามพระราชกรณียกิจสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ผ่านการชมสถานีโทรทัศน์(ทีวี)ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เพราะที่ประเทศกัมพูชาสามารถชมรายการต่างๆ ผ่านทางทีวีช่อง 3 ทีวีช่อง 7 และทีวีช่อง 5 ของประเทศไทยได้ชัดเจน
“ผมได้เห็นภาพพระองค์ท่านทรงงาน เสด็จฯไปตามสถานที่ต่างๆ ไปตามโรงเรียนต่างๆ ในประเทศไทย สร้างอาคารเรียน และมอบอุปกรณ์ทางการศึกษา ผมภูมิใจที่ได้เป็นนักศึกษาทุนโครงการพระราชทาน ความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มาเรียนในประเทศไทย ผมจะตั้งใจเรียน ไม่ให้เกรดต่ำกว่า 3 เพื่อโอกาสทางการศึกษาของรุ่นน้อง รุ่นต่อๆไป จะได้รับโอกาสเหมือนกับผมบ้าง” เฮ ลอง ลี กล่าวด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
เฮ ลอง ลี เล่าอีกว่า ครอบครัวที่กัมพูชาประกอบธุรกิจค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ที่นำเข้าจาก 3 ประเทศ ด้วยกัน คือประเทศจีน เวียดนาม และไทย ในการนำสินค้าเข้าสู่ประเทศกัมพูชา การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญมาก จึงอยากมีความรู้และเข้าใจภาษาไทย ซึ่งไม่ใช่เพียงภาษาไทยเท่านั้น การรู้จักบริษัทรายใหญ่ในประเทศไทย การสร้างความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคต
”ผมจึงสอบชิงทุนโครงการพระราชทาน ความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มาศึกษาสาขาวิชาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (หลักสูตรภาษาไทย) ผมสามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้ เพราะว่าก่อนที่จะมาศึกษาที่ประเทศไทย ทางโครงการฯได้ส่งผมมาศึกษาเรียนรู้ภาษาไทย ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส) เป็นเวลา 3 เดือน"เฮ ลอง ลี ย้อนอดีต
ครอบครัวของ “เฮ ลอง ลี” มีด้วยกัน 5 ชีวิต พ่อแม่และลูก 3 คน อาศัยอยู่ในเมืองพนมเปญ เมืองหลวง พระราชาณาจักรกัมพูชา “เฮ ลอง ลี”เป็นลูกคนโต น้องชายคนที่ 2 ได้ทุนไปเรียนที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนน้องสาวคนเล็กได้ทุนไปเรียนที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
“เฮ ลอง ลี” ในวัยเด็กเป็นคนร่าเริง สนุกสนาน มีจิตอาสา เมื่อเรียนจบในระดับชั้นมัธยมตอนต้น(ม.ต้น) จาก Wat Koh High School และเรียนจบระดับมัธยมปลาย จาก Singapore International school (สายศิลป์-ฝรั่งเศส) ซึ่งในช่วงชีวิตในวัยเรียนเขาได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ 4 เดือน ได้เรียนรู้ชีวิตประชาชนสิงคโปร์ ได้ใช้และพัฒนาภาษาอังกฤษ เรียนรู้การใช้ชีวิตในต่างแดน
เหนืออื่นใด พ่อแม่ของ"เฮ ลอง ลี“ให้ความสำคัญกับการลงทุนทางด้านการศึกษากับลูกๆทุกคน ทำให้น้องชาย น้องสาวหญิง ได้เรียนภาษาจีน รวมทั้ง“เฮ ลอง ลี” ก็ได้เรียนหลากหลายภาษา ตั้งแต่เขาเรียนอยู่ระดับชั้น ม.1–ม.6 นื่องจากพ่อแม่อยากให้ลูกพูดได้หลายภาษา
"ทำให้วันนี้ของผมในวัย 22 ปี สามารถพูดได้ทั้งหมด 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย,ภาษาจีน,ภาษาอังกฤษ,ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเขมร ซึ่งการสามารถพูดได้หลายภาษานั้น ผมมีความเชื่อมั่นว่า จะได้เปรียบ และมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ ในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิต”
3 ปีสถานะเป็นนักศึกษามทร.ธัญบุรี "เฮ ลอง ลี" มีผลการเรียนดี ด้วยเกรดเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 3.09 แม้ระยะแรกๆ ที่มาเรียนอาจมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร การใช้คำศัพท์ภาษาไทยอยู่บ้าง แต่โชคดีมีเพื่อนๆ คอยช่วยเหลือ “ช่วยแปล” ให้ รวมไปถึงช่วย “ติวสอบ” ให้ด้วย
“เมื่อภาคเรียนที่ผ่านมา ผมภูมิใจมาก ที่ได้รับการคัดเลืิอกให้เป็นตัวแทนนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ แลกเปลี่ยนโครงการ MOU ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้มีโอกาสได้ฝึกใช้และพัฒนาภาษาอังกฤษเป็นเวลานานร่วม 1 เดือน นับเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ทางคณะฯได้มอบโอกาสให้กับผมในครั้งนี้” เฮ ลอง ลี กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ปัจจุบัน“เฮ ลอง ลี”พักอยู่ในหอมหาวิทยาลัยกับเพื่อนอีก 2 คน ที่ได้รับทุนเหมือนกัน ระหว่างที่เรียนเขาได้ใช้เวลาว่างในวันหยุดวันเสาร์-วันอาทิตย์ สวมบทบบาทเป็น “ครูสอนพิเศษ” สอนทั้ง "ภาษาอังกฤษ"และ“ภาษาฝรั่งเศส” ที่สถาบันสอนภาษา ที่สยาม กรุงเทพมหนคร ลูกศิษย์ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่ต้องการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เฉลี่ยสอนพิเศษวันละ 6 ชั่วโมง ได้ค่าสอนชั่วโมงละ 500 บาท หรือตกวันละ“3,000 บาท”
“เฮ ลอง ลี” บอกว่า เมื่ออยู่กับอาจารย์ หรือ ผู้ใหญ่ควรให้ความเคารพ วางตัวให้เหมาะสม เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ ก็วางตัวอีกแบบ สนุกสนาน รู้จักการปรับตัว อยู่ที่เมืองไทย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทย และคนไทยมากขึ้น แต่เมื่อปิดเทอมก็จะกลับบ้านเกิด สลับกับพ่อแม่จะมาแวะมาเยี่ยมและเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยปีละครั้ง
"เฮ ลอง ลี " หรือ "น๊าฟ"
“ผมตั้งความฝันและวางแผนจะจบการศึกษาในระดับปริญญาเอก(ดร.)ก่อนอายุ27ปี นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำ ตามความฝันให้ได้ จะนำความรู้ที่ได้ศึกษาไปถ่ายทอด เพราะว่าอยากกลับไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ในพระราชาณาจักรกัมพูชา” เฮ ลอง ลี กล่าวด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
0 ชลธิชา ศรีอุบล 0 เรื่อง/คลิปภาพ
0 กมลทิพย์ ใบเงิน 0 เรียบเรียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง