ดราม่าจุฬาฯตั้งคกก.สอบจริยธรรม -มารยาท อ.ล็อคคอ-เนติวิทย์

    รศ. ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ รองอธิการบดีกำกับดูแลด้านการพัฒนานิสิต และนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกถึงกรณีเหตุการณ์ในช่วงพิธีถวายสัตย์ปฏิญานตนของนิสิตใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า เมื่อเป็นนิสิตใหม่เข้ามาอยู่จุฬา ซึ่งเป็นสถาบันของ ร.5 และ ร.6 ที่พระกรุณาประดิษฐานขึ้น จึงอยากให้นิสิตมาถวายตัวเป็นมหาดเล็กตามทำเนียบโบราณ พอมีอนุสาวรีย์ 2 รัชกาลก็จึงให้มาทำพิธีบริเวณนี้

     ซึ่งตอนเรียนจบก็ต้องมาถวายบังคมลา เพื่อให้เกิดสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลในการไปประกอบอาชีพต่างๆด้วย และเมื่อวานมีฝนตกด้วย ซึ่งคณะกรรมการองค์การบริหารนิสิตจุฬา ซึ่งเป็นคนดูแลกิจกรรม จึงตัดสินใจว่า ฝนยังรับได้ จึงทำพิธีต่อ และระหว่างทำพิธี ก็แจกเสื้อฝนให้กับนักศึกษาทุกคนซึ่งเพียงพอ

     จากนั้นเด็กก็ใส่เสื้อฝนและทำพิธีต่อ พอพิธีจบก็แยกย้าย ซึ่งใช้เวลาไม่นานในการทำกิจกรรม และจากนั้น  เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล ซึ่งเป็นสภาประธานนิสิตฯ ก็พาทีมงานออกมาถวายคำนับ ซึ่งพิธีนี้ไม่ใช่ของปีเนติวิทย์ แต่เป็นของปี 1 ซึ่งระหว่างที่วิ่งออกไป ก็มีอาจารย์ไปล็อกคอได้ 1 คน ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกไป

      เพราะก่อนหน้านี้อาจารย์พยายามห้ามด้วยคำพูดสอบถามแล้วว่าจะออกไปทำอะไร ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย และอาจารย์เองก็เครียด เพราะอยากให้พิธีออกมาเรียบร้อย จนเข้าโรงพยาบาล
      "ยืนยันด้วยว่า ไม่มีการหมอบกราบ เพราะเราได้ตัดพิธีไปแล้ว และ องค์การก็ทำแผนสำรองในขณะที่ฝนตก และได้ถวายบังคม และกล่าวคำปฏิญาน"รศ. ดร.บัญชา กล่าว
   ทั้งนี้รศ. ดร.บัญชา กล่าวด้วยว่าระหว่างจัดแถว ก็จะมีการแจ้งสอบถามกับเด็กแล้วว่า ใครไม่ประสงค์จะถวายความบังคม ให้แยกออกไปได้ เพื่อจัดพื้นที่ให้รอ และจะนำพาไปถวายคำนับที่พระราชานุสาวรีย์ หลังพิธีเสร็จ แต่เมื่อวานนี้ไม่มีใคร ไม่ประสงค์จะเข้าร่วมพิธี 
       และที่ เนติวิทย์ กระทำกับเพื่อนนั้น ยังคงอยู่ในระหว่างพิธีการ ซึ่งตามมารยาทแล้วถือว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องออกไปถวายคำนับ เพราะพิธียังไม่แล้วเสร็จ  โดยก็จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบจริยธรรม และมารยาทของอาจารย์และเนติวิทย์ โดยวันจันทร์จะมีการหารือถึงการสอบจริยธรรมอีกครั้ง

     รองอธิการบดียอมรับด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ก็ยังต้องคงประเพณี และยังยึดมั่นทำต่อไป เพราะจุฬาฯมาจากที่เป็นโรงเรียนมหาดเล็ก พัฒนามาเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ ร.6 ก็ทรงประดิษฐานเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ต้องดำเนินการต่อ  ตราพระเกี้ยว ก็เป็นเครื่องหมายอันทรงคุณค่าที่เราต้องเทิดทูนและเก็บหวงแหนไว้

     โดยการจัดกิจกรรมปีหน้าก็ไม่ได้ต้องป้องกันอะไร จะต้องทำตามประเพณีวัฒนธรรมต่อ แต่อาจจะตัดในหลายขั้นตอน เพื่อให้พิธีกระชับขึ้นทางมหาวิทยาลัยก็พูดคุยกับเนติวิทย์ เพราะถือว่าเป็นเหมือนลูกคนหนึ่ง ที่อยู่รั้วจุฬา ก็ต้องคุยให้เข้าใจ และต้องดูแลเช่นกันรวมถึงชุดที่ต้องดูแลนิสิตด้วย
    "จะต้องพูดคุยกับเนติวิทย์ เพราะถือว่าเป็นเหมือนลูกคนหนึ่ง ที่อยู่รั้วจุฬา ก็ต้องคุยให้เข้าใจด้วย"  รศ. ดร.บัญชา  กล่าว