ข่าว

“พระสนิทวงศ์” ผอ.สื่อสารธรรมกาย จัดพยาน 8 ปากสู้คดีหมิ่นดีเอ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตรวจหลักฐานคดี อัยการฟ้อง“พระสนิทวงศ์” ผอ.สื่อสารธรรมกาย หมิ่นดีเอสไอใช้ความรุนแรงค้นวัด เจ้าตัวยืนกรานปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องศาลนัดสืบพยานโจทก์-จำเลย มิ.ย.ปีหน้า

ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 24 ก.ค.60 เวลา 09.30 น. ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พระสนิทวงศ์ เจริญรัตตะวงศ์ หรือวุฑฒิวังโส อายุ 45 ปี ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำด้วยวิธีใดอันเป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา มาตรา 326,328 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ.60 มีการโพสต์เฟซบุ๊กบัญชีพระสนิทวงศ์ และยังได้มีการแถลงข่าวปลุกปั่นศิษย์วัดพระธรรมกายให้เข้าใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ช่วงที่เข้าค้นวัดพระธรรมกายว่า กระทำรุนแรงและไม่ชอบด้วยกฎหมาย รังแกพระสงฆ์และสมาชิกวัดพระธรรมกายนั้น ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาและได้สอบคำให้การ เบื้องต้นพระสนิทวงศ์ ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี โดยได้รับการประกันตัวไปใน ชั้นพิจารณาคดี  400,000 บาท

โดยวันนี้พระสนิทวงศ์ จำเลย และทนายความ เดินทางมาศาลพร้อมยื่นบัญชีพยานในการตรวจหลักฐาน
 
ซึ่งวันนี้ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเป็นที่ข้าใจแล้วสอบคำให้การอีกครั้ง ปรากฏว่า พระสนิทวงศ์ จำเลย แถลงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

จากนั้นในการเสนอบัญชีพยานและตรวจหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่าย ด้านอัยการโจทก์ แถลงประสงค์จะนำพยานเข้าสืบรวม 9 ปาก 
 
ขณะที่พระสนิทวงศ์ จำเลย ได้แถลงว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีบุคคลอื่นส่งข้อความลงเฟซบุ๊กของจำเลยโดยที่จำเลยไม่ทราบเรื่องและไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา โดยจำเลย เเถลงเตรียมพยานนำสืบต่อสู้คดี รวม 8 ปากและใช้วันนัดสืบพยาน 2 นัด
 
ส่วนพยานปาก ร.ต.อ.หญิงสุรีย์พร วัฒนแสงที่โจทก์เสนอตอศาลนั้น ฝ่ายจำเลยได้แถลงรับข้อเท็จจริงได้ว่า ร.ต.อ.หญิงสุรีย์ เป็นเจ้าพนักงานผู้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรไทยและเป็นผู้ทำการตรวจสอบการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรของจำเลย ส่วนพยานบุคคลที่เหลืออก  8 ปากและเอกสารอื่นๆ ของโจทก์นั้นฝ่ายจำเลยยังติดใจขอให้นำสืบ

ขณะเดียวกัน พระสนิทวงศ์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลด้วยว่า จำเลยเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เดินทางมาฟังการพิจารณาคดีไม่สะดวก จึงขออนุญาตศาลที่จะให้สืบพยานลับหลังจำเลย 

โดยศาลพิจารณาคำร้องของคู่ความทั้งสองเเล้วเห็นควรอนุญาตให้ โจทก์เเละจำเลยนำพยานเข้าสืบตามคำร้อง และกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 7 -8 มิ.ย.61 และสืบพยานจำเลยวันที่ 12-13 มิ.ย.61 โดยศาลกำชับคู่ความว่าศาลจะพิจารณาสืบพยานตามววันนัดอย่างเคร่งครัดด้วย ส่วนที่จำเลยขออนุญาตให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังนั้นศาลมีคำสั่งอนุญาตตามที่จำเลยขอ 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ