ข่าว

ศอตช.รอฟังผลหารือเงินทอนวัดก่อนชงใช้ ม.44 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สุวพันธุ์" รอผลประชุมร่วมกรณีเงินทอนวัด ก่อนชงนายกฯ ใช้ ม.44 จัดการ  พร้อมระดมปปง.ดีเอสไอ สตง. ช่วยสางคดี คาดรู้กรอบการทำงานในสัปดาห์นี้

          โรงแรมดุสิตธานี - 17 ก.ค.60 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) กล่าวถึงกรณีมอบหมายให้ศอตช.เข้าไปช่วยทำคดีการตรวจสอบวัดที่พบการทุจริตงบบูรณะและปฎิสังรณ์ หรือคดีเงินทอนวัด ซึ่งเป็นงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือ พศ.  ว่า  ยังต้องรอผลการประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้กองบังคับการการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( ปปป. ) เป็นเจ้าของเรื่องต้องรอการชี้แจงว่าได้เจอปัญหา และอุปสรรคอะไร รวมทั้งต้องการความช่วยเหลือในส่วนใดบ้างเพื่อให้การทำคดีมีความสมบูรณ์มากกขึ้น เมื่อทราบปัญหา ศอตช.ในฐานะหน่วยงานที่บูรณาการการทำงานเรื่องนี้ก็ยินดีที่จะเข้าไปขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สำนักงานตรวงเงินแผ่นดิน หรือ สตง., สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือแม้แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้ามาช่วยทำคดี
          ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มีข้อเสนอให้ ศอตช. เสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้ใช้มาตรา 44 กับการแก้ไขปัญหาทุจริตเงินทอนวัด เพื่อเปิดทางเจ้าหน้าที่สอบสวนอย่างเต็มที่ และทำงานได้นวดเร็วยิ่งขึ้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องรอผลการประชุมจากทางด้านคณะทำงานร่วม ที่มี นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ เลขา ศอตช. ที่จะได้เชิญ ปปป. และ พศ. มาร่วมประชุมสรุปในเรื่องนี้หากที่ประชุมมีความเห็นสมควรว่าต้องใช้ มาตรา 44 ก็จะส่งเรื่องต่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาว่า สมควรใช้หรือไม่ แต่ตอนนี้ต้องขอเวลาให้คณะกรรมการที่รับผิดชอบ ทำงานพิจารณาอย่างผลดีผลเสียรอบด้าน ซึ่งตนเองก็ไม่ขัดข้องหากจะเสนอให้ใช้มาตรา 44 ในการจัดการปัญหาเรื่องนี้ เพราะย้ำมาโดยตลอดว่าการใช้งบประมาณแผ่นดินไม่ว่าจะหน่วยงานไหนต้องทำอย่างโปร่งใส อยู่บนพื้นฐานความสุจริต ตรวจสอบได้
          ด้านนายประยงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมที่แน่นอน เพราะแต่ละหน่วยงานมีภารกิจจึงยังไม่เวลาว่างที่ตรงกัน แต่ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงานอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้อาจจะขอเวลาพูดคุยกันในกรอบการทำงาน สิ่งที่ต้องการ รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น งบประมาณการทำงาน และมีข้อมูลอะไรที่ยังขาด โดยอาจจะเป็นการประชุมพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการก่อน โดยคาดว่าน่าจะได้วันที่ทั้งหมดจะมาพูดคุยกันได้ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ