ข่าว

ชงเลิกกม.ขายฝากแก้หนี้นอกระบบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนี้นอกระบบสะพัดเหนือ อีสาน ยธ.ชงยกเลิกกฎหมายขายฝาก ชี้เป็นต้นเหตุนายทุนเงินกู้นอกระบบยึดบ้าน-ที่ดินโดยไม่ต้องบังคับจำนอง เผยหนี้ก้อนโตจนเกินกำลังช่วยเหลือ

         13 ก.ค.60  ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม( ศนธ.ยธ) สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย(TIJ) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จัดสัมมนาเรื่อง หนี้นอกระบบ : บริหารจัดการอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนได้อย่างไรโดย พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้กล่าวว่า ประชาชนเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากปัญหาหนี้นอกระบบกับกระทรวงยุติธรรมมาโดยตลอด แม้ว่าที่ผ่านมาศูนย์ดำรงธรรมและยุติธรรมจังหวัดจะให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเมื่อถูกบังคับคดีแต่ปัญหาไม่ได้ลดลง เนื่องจากเจ้าหนี้มีความรู้ด้านกฎหมายมักจะใช้ช่องทางเอาเปรียบชาวบ้าน ทำให้ที่ดินทำกินหรือบ้านพักอาศัยตกเป็นของเจ้าหนี้ โดยบังคับให้ค้ำประกันเงินกู้ด้วยวิธีขายฝากบ้านและที่ดิน ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้มีประสิทธิภาพ จึงเสนอยกเลิกกฎหมายขายฝาก หลังจากก่อนหน้านี้สามารถแก้ไขกฎหมายห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราจนสำเร็จมาแล้ว

          “ในภาคอีสานและภาคเหนือพบปัญหาประชาชนเป็นหนี้นอกระบบและต้องเสียทรัพย์จากการขายฝากมากที่สุด เนื่องจากการขายฝากเป็นการทำสัญญาในระยะสั้น ประมาณ 3-6 เดือน ทำให้ลูกหนี้ที่เป็นเกษตรกรไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ทัน บางรายผ่อนชำระหนี้จนครบกำหนดสัญญาแต่เจ้าหนี้ไม่ยอมโอนทรัพย์คืนให้ลูกหนี้ เบื้องต้นพบว่าเจ้าหนี้นอกระบบส่วนใหญ่มีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ทำให้มีความรู้เรื่องกฎหมายเป็นอย่างดี”พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าว

          ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯไม่สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ที่เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือได้ทุกราย เนื่องจากมีหนี้สินจำนวนมาก บางรายมีรายได้ไม่สัมพันธ์กับหนี้ ขณะที่ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ก็มีวงเงินช่วยเหลือจำกัด หลังจากนี้จะผลักดันศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้เป็นศูนย์บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างครบวงจร พร้อมให้ความรู้ คำปรึกษาด้านข้อกฎหมายพื้นฐานที่จำเป็น ทั้งเรื่องการทำสัญญากูยืมเงิน สัญญาขายฝาก สัญญาจำนองและสัญญาเช่าซื้อ แต่หัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างยั่งยืน คือ ประชาชนจะต้องมีวินัยในการใช้จ่ายและอดออมด้วย

          นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท  กรรมการสมาคมส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค คณะทำงานขบวนการผู้หญิงปฎิรูปประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่ภาคอีสานส่งผลกระทบหนักกว่าปัญหาหนี้ในระบบมาก ในทุกชุมชนจะมีนายหน้าของเจ้าหนี้คอยเรียกเก็บดอกเบี้ยและบังคับให้ลูกหนี้หาเงินมาใช้หนี้ตามกำหนด หากลูกหนี้รายใดไม่หาเงินมาคืนก็จะถูกข่มขู่ คุกคาม หลายรายไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านได้ต้องอพยพออกจากชุมชนหรือในกรณีที่มีการทำสัญญาจำนอง หรือขายฝาก เมื่อคดีขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลก็จะถูกฟ้องขับไล่

         “จากประสบการณ์ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านพบว่า การเซ็นสัญญาหรือเอกสารกู้ยืมเงินของเกษตรกร จะไม่มีการกรอกตัวเลขกู้ยืม บางรายกู้เงินจำนวน  400,000 บาท แต่เมื่อต่อสู้ในชั้นศาลกลับพบว่าฝ่ายเจ้าหนี้ที่ถือเอกสารจะกรอกตัวเลขเมื่อคดีใกล้จะฟ้องร้องอยู่ที่ 1.6 ล้านบาท ทุกอย่างจะถูกดำเนินการโดยนายหน้าทั้งหมด จึงอยากให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเร่งให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะการให้ความรู้ด้านข้อกฎหมาย”นางรัชฎาภรณ์ กล่าว

          นางเยาวลักษณ์ เหลาดวงดี ตัวแทนลูกหนี้ กล่าวว่า ตนถูกนายทุนยึดบ้านและที่ดินทำกิน จนต้องอพยพครอบครัวทั้ง 12 ชีวิต ออกมาเช่าบ้านอยู่ โดยบ้านเดิมได้ถูกปรับปรุงใหม่และติดประกาศขายแล้ว ก่อนหน้าที่จะถูกยึดบ้านและที่ดินได้เดินทางไปศาลจังหวัดขอนแก่นทุกนัดโดยหวังว่าเจ้าหนี้จะประนีประนอมให้ชำระหนี้ที่กู้ยืม แต่เจ้าหนี้ได้ส่งทนายมาและให้เซ็นต์เอกสารเพื่อปัญหาจะได้ยุติ หลังจากนั้นจึงทราบว่าตนถูกฟ้องร้องบังคับคดีไปแล้ว และเมื่อคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล ก็ได้มีคำพิพากษาให้ตนและครอบครัวย้ายออกจากบ้าน ไม่เช่นนั้นจะถูกจับดำเนินคดี

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ