ข่าว

"ป.ป.ช."จ่อปรับแนวทางไต่สวนคดีเงินทอนวัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ป.ป.ช." จ่อปรับแนวทางไต่สวน คดีโกงเงินอุดหนุนวัด หวัง ทำงานง่ายด้วยการบูรณาการข้อมูล หลัง รับสำนวนในมือเพียบ พบความเสียหาย 90 ล้าน

 

          22 มิ.ย. 60 - นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดหลังได้รับสำนวนจากกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปปป.) รวม 12 สำนวนว่า ฝ่ายเลขาธิการ ป.ป.ช. เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว 7 สำนวนแรก เพื่อพิจารณาว่าจะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้เลยหรือไม่ เหลืออีก 5 สำนวน ที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันสำนักงาน ป.ป.ช. ไต่สวนข้อมูลเบื้องต้นพบอีกอย่างน้อย 60 - 70 สำนวน ใน 60 - 70 วัด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.สงขลา จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.สตูล ที่อาจมีลักษณะเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกระทำความผิดดังกล่าวด้วย โดยใช้โมเดลเดียวกันคือ โอนเงินเกินแล้วมาเรียกเงินคืน หรือเงินทอน ซึ่งขยายผลจากกรณีบุกจับกุม ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา เมื่อปลายปี 2558

          นายสรรเสริญ กล่าวว่า สำนวนที่มีเป็นจำนวนมาก จึงอาจเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปรับเปลี่ยนวิธีการในการไต่สวน เพื่อบูรณาการข้อมูลให้ทำงานง่ายขึ้น เช่น สมัยก่อนตำรวจอาจตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมารวบรวมดำเนินการ แนวทางที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอไปอาจเป็นแนวทางนี้ แต่ต้องดูคณะกรรมการ ป.ป.ช. อีกทีว่าจะเห็นชอบหรือไม่ และให้ทำรูปแบบนี้หรือไม่ เพราะคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีประสบการณ์สูง 

          เมื่อถามว่า ผู้ถูกกล่าวหาใน 60 - 70 สำนวนมีจำนวนเท่าไหร่ และมูลค่าความเสียหายทั้งหมดในกรณีนี้มีเท่าไหร่ นายสรรเสริญ กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาระดับล่างนั้น อาจเปลี่ยนไปในแต่ละจังหวัด แต่คาดว่าผู้ถูกกล่าวหาในภาพรวมอาจใกล้เคียงกันมาก เพราะพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเป็นลักษณะเดียวกันหมด ส่วนความเสียหายเท่าที่ทราบขณะนี้ประมาณ 90 ล้านบาทเศษ 

          เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวต่ออีกว่า คดีทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะวัดตามที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(ปปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ส่งมา 12 สำนวนนั้น ที่ประชุมป.ป.ช.ยังไม่มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินอุดหนุนวัดตามสำนวนที่ปปป.ยื่นเรื่องให้ป.ป.ช. เนื่องจากวาระการประชุมในวันที่ 22 มิ.ย.มีจำนวนมาก ทำให้พิจารณาไม่ทัน จึงต้องเลื่อนการพิจารณาเป็นวันที่ 27 มิ.ย.แต่ยังเชื่อว่า มีข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ในสำนวนที่ป.ป.ป.เสนอมา 

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ