ข่าว

คดี "วิศวกร" ยิง วัยรุ่น เจตนาฆ่าหรือไม่ต้องให้ศาลตัดสิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิศวกร" ร้องยธ.ช่วยคดี อ้างอัยการจะฟ้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา  เผย ข้อหารุนแรงเกินไป

          กระทรวงยุติธรรม -19 มิ.ย.60-วิศวกร ร้องยธ.ช่วยคดี อ้างอัยการจะฟ้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา  เผยข้อหารุนแรงเกินไป ด้านรองปลัดยธ.แนะหยุดจ้อผ่านสื่อ เรื่องคดีจะเป็นเจตนาฆ่าหรือไม่ ต้องให้ศาลตัดสิน ระบุอีกฝ่ายก็สูญเสีย ยธ.ขอวางตัวเป็นกลาง

          นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ วิศวกร อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง นายนวพล ผึ่งผาย หรือปอนด์ อายุ 17 ปี เสียชีวิต หลังมีปากเสียงกันเรื่องจอดรถบริเวณแยกครกใหญ่ ถนนอ่างศิลา-สุขุมวิท อ.เมืองชลบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2560 พร้อมนางอภิญญา โภชนสมบูรณ์ ภรรยา เข้าพบ พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ช่วยเหลือด้านคดีความ หลังทราบว่าอัยการจังหวัดอาจจะสั่งฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

                          คดี "วิศวกร" ยิง วัยรุ่น เจตนาฆ่าหรือไม่ต้องให้ศาลตัดสิน

          นายสุเทพ กล่าวว่า ตนทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า อัยการจะสั่งฟ้องตนในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาให้อัยการ จึงเข้าใจไปเองว่าอัยการจะสั่งฟ้องในข้อหาดังกล่าวจริง ในฐานะคนธรรมดาก็มีสภาพจิตใจย่ำแย่  ครอบครัวก็ได้รับผลกระทบ แม่ที่ป่วยอยู่ก็รู้สึกแย่  เพราะเป็นข้อหาที่รุนแรงเกินไป ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตนก็ได้มอบตัวทันที และสิ่งที่ทำไปก็เพื่อปกป้องครอบครัว จึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยแนะนำด้านคดี เนื่องจากตนไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย และที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ทั้งนี้ ตนยอมรับในข้อหาพกพาและใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง  

          นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนมายังไม่เคยไปร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการสูงสุด โดยคดีนี้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดชลบุรีเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 60 และพนักงานอัยการนัดหมายฟังคำสั่งคดีในวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาตนได้ไปพบอัยการตามนัด แต่อัยการได้เลื่อนการสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 29 มิ.ย.นี้  

                          คดี "วิศวกร" ยิง วัยรุ่น เจตนาฆ่าหรือไม่ต้องให้ศาลตัดสิน

          ด้านนางอภิญญา ภรรยา กล่าวว่า เราปฏิบัติตามวินัยจราจร ขณะที่คู่กรณีไม่ได้ปฏิบัติตาม แต่ข่าวที่ออกมากลายเป็นว่าครอบครัวเราไม่มีน้ำใจ 

          ขณะที่พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ตนได้ให้คำแนะนำข้อกฎหมายกับนายสุเทพและครอบครัว การที่นายสุเทพมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ทางฝ่ายคู่กรณีก็ได้รับความสูญเสียเช่นกัน และสามารถมาร้องที่กระทรวงยุติธรรมได้เช่นกัน ซึ่งข้อหาดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะมองเป็นเจตนาฆ่าหรือไม่  ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และต้องมีความเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม ได้เตือนนายสุเทพไปว่าไม่ควรให้ข่าวตลอดเวลาโดยเฉพาะสื่อโซเซียล เพราะการเผยแพร่ข้อมูลหลักฐานทั้งที่เป็นพยานหลักฐานที่สามารถนำมาใช้เป็นข้อต่อสู้ได้หรือไม่ได้นั้น มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบทางกฎหมาย และสำหรับตนเห็นว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเป็นกลาง  ที่ผ่านมามีการตั้งข้อกล่าวหากับทั้งสองฝ่าย  หลังนายสุเทพรับฟังก็เข้าใจดี.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ