‘เสี่ยปาน’ถูกหวย30ล.เตรียมลาบวช

           ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 ได้เดินทางไปที่บ้านของนายยงยุทธ แก้วสวนจิก หรือ เสี่ยปาน ที่บ้านหนองบ่อ ต.หนองหาน อ.หนองหาน อดีต รปภ.ที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ถึง 5 ใบ ได้รับเงิน 30 ล้านบาท เมื่อเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นมีเหตุที่ทำให้เลิกกับภรรยา จนมีการฟ้องร้องกับเป็นข่าวใหญ่โต เมื่อปี 59 ที่ผ่านมา จนสุดท้ายฝ่ายภรรยาได้เป็นผู้เลี้ยงดูลูกชาย โดยเสี่ยปานเป็นผู้ให้ค่าใช้จ่ายเลี้ยงดู ส่งเสียลูกชายให้เล่าเรียน ไปจนถึงอายุ 20 ปี โดยเสี่ยปานได้ซื้อที่ดินที่บ้านหนองบ่อจำนวน 30 ไร่ และได้สร้างบ้านเอาไว้ พร้อมขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงวัว 20 ตัว พร้อมรถยนต์อีก 2 คัน ซึ่งทั้งหมดเตรียมยกให้ลูกชาย เมื่ออายุครบ 20 ปี

           โดยครั้งนี้นายยงยุทธ แก้วสวนจิก หรือ เสี่ยปาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า หลังมีข่าวออกไปว่าตนอยากได้น้องเกาลัด อายุ 2 ขวบ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาเลี้ยงดู เนื่องจากทราบว่าอดีตภรรยาได้เดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน โดยให้ผู้เป็นยายเลี้ยงลูกชาย ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ส่งเงินให้กับลูกชายทุกเดือน และเมื่อข่าวออกไปว่าตนอยากได้ลูกชายมาเลี้ยง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีกระแสมาจากแม่ยายและอดีตภรรยา ได้สั่งห้ามตนไปหาลูก หรือห้ามไม่ให้โทรศัพท์ไปหา ปิดกั้นไม่ให้ตนได้พบและพูดคุยกับลูก ทั้งที่ทรัพย์สินเงินสดทั้งหมดตนได้ทำพินัยกรรมยกให้ลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น

           “ผมน้อยใจอดีตภรรยา ทั้งที่เดิมตอนเริ่มมีปัญหา ตั้งใจสร้างบ้านไว้ 5 ห้อง ให้ภรรยา แม่ยาย และญาติ ๆ ฝ่ายเขามาอยู่ด้วย แต่เมื่อเกิดปัญหาจนต้องเลิกรากัน ผมก็ส่งเงินให้ลูกทุกเดือน แต่อดีตภรรยาได้ไปทำงานต่างประเทศ ไม่ยอมอยู่ดูแลลูกเอง ทำให้ผมอยากได้ลูกมาเลี้ยงดูแลเขา แต่ต้องมาถูกกีดกัน ห้ามผมไปหาลูก ผมได้นอนคิดอยู่ 3 คืน ในที่สุดจึงตัดสินใจว่าจะขอบวชเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยจะบวชที่วัดป่าในภาคอีสาน ขอไม่บอกว่าวัดอะไร และจะบวชในวันที่ 10 มิถุนายนนี้”

           เสี่ยปาน บอกต่ออีกว่า ทรัพย์สินทุกอย่างที่มีคงจะขายแต่วัว เพราะไม่มีใครดูแลได้ ส่วนรถยนต์ 2 คันที่ซื้อมาใหม่ เก็บไว้ให้พี่ชายใช้รับส่งลูกชาย ถ้าทางนั้นอนุญาติ รวมทั้งรถปิกอัพคันนำโชคให้กับตนเอง ที่ป้ายทะเบียนรถ ผก 4884 อุดรธานี ทำให้ตนถูกรางวัลที่ 1 โดยต้องเก็บไว้ให้พี่สาวดูแลรักษา ส่วนที่ดินบางส่วนที่ซื้อเอาไว้ ก็เตรียมจะขายออก ส่วนบ้านและที่ดินที่อาศัยอยู่ตอนนี้เก็บไว้ จะให้พี่ชายเข้ามาดูแลต่อ แต่ทรัพย์สินทุกอย่างยังคงเป็นของลูกชาย เมื่อเขาโตอายุครบ 20 ปี แล้ว ส่วนตนเองก็ตั้งใจจะออกบวช บวชนานเท่าที่บุญเรามีถึง ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นในครอบครัวก็อาจจะบวชตลอดชีวิต เพราะไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว