ข่าว

สรุปรถ "โดม ปกรณ์ ลัม" ถูกอายัด นะจ๊ะ !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดีเอสไอ-ศุลกากร ร่วมตรวจรถโจรกรรมจากอังกฤษจอดพักในฟรีโซน 3 คัน พบ 2 คัน ถูกส่งไปฮ่องกงประสานนำรถกลับไทยแล้ว ส่วนลัมโบกินี "โดม" ไม่ใช่รถโจรกรรมแต่ถูกอายัด

 

          30 พ.ค.60 - พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคลังรถยนต์ในเขตปลอดอากรซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง โดยบริษัทพร้อมให้สื่อมวลชนร่วมคณะเข้าตรวจสอบพื้นที่ด้านใน ซึ่งมีรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ 3 คัน แต่ภายในโกดังของบริษัทมีรถอีกหลายคันไม่ใช่รถผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือไม่ให้ถ่ายภาพรถยนต์คันอื่น

           สำหรับรถยนต์ที่ถูกดีเอสไออายัดเป็นของกลาง เป็นเมอซีเดสเบนซ์ สีดำ 1 คัน เมอซีเดส เบนซ์ สีขาว 1 คัน และซุปเปอร์คาร์ ยี่ห้อนิสสัน 1 คัน โดยรถยนต์ที่จอดอยู่ในคลังฟรีโซนนี้ ส่วนหนึ่งนำเข้าเพื่อขายในประเทศไทย และอีกส่วนหนึ่งเข้ามาพักรอการส่งออกไปต่างประเทศ

สรุปรถ "โดม ปกรณ์ ลัม" ถูกอายัด นะจ๊ะ !!

          พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอและกรมศุลกากรได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ โดยเชื่อว่ารถจำนวนหนึ่งยังจอดในฟรีโซน ในการตรวจค้นพบรถตามบัญชี 3 คัน รวมเป็น 12 คัน ระหว่างนี้ดีเอสไอจะอายัดไว้รอประเทศอังกฤษนำหลักฐาน มาขอรับรถกลับไป นอกจากนี้ยังพบการนำรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมส่งขึ้นเรือออกไป 2 คัน ซึ่งศุลกากรจะรับไปดำเนินการติดตามนำรถกลับคืนมา สำหรับบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้นและอายัดรถยนต์ไว้ก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างการออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา

สรุปรถ "โดม ปกรณ์ ลัม" ถูกอายัด นะจ๊ะ !!
       

            พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงข้อมูลสับสนเกี่ยวกับรถยนต์ของนายปกรณ์ ลัม หรือโดม อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้มีความสับสนว่านายปกรณ์เป็นผู้เก็บรักษารถยนต์ไว้ แต่ผลการตรวจสอบพบว่ารถลัมโบกินีของนายปกรณ์แม้ไม่ใช่รถที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ แต่ก็ถูกดีเอสไออายัดไว้ในจุดตรวจค้นที่ 9 (โชว์รูมเอกมัย เลขที่ 267/13-14ถนนสุขุมวิท 63 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม.) ในภาพรวมคือดีเอสไออายัดรถลัมโบกินีสีเขียว 2 คัน เป็นรถโจรกรรม 1 คัน และรถของนายปกรณ์ 1 คัน ส่วนรถของนายปกรณ์จะมีความผิดหรือไม่ยังตอบไม่ได้ ต้องรอให้นายปกรณ์นำเอกสารมาชี้แจง
          นายชัยยุทธ กล่าวว่า ศุลกากรกำลังดำเนินการนำรถ 2 คัน กลับมา เบื้องต้นค้นพบหลักฐานบริษัทเอกชนขอทำ รี-เอกซ์พอร์ตออกไปยังฮ่องกง โดยมีเอกสารถูกต้อง แต่รถยังไปไม่ถึงปลายทางจึงประสานให้ตัวแทนเรือนำรถกลับมายังประเทศไทย เบื้องต้นทราบว่ารถจะกลับถึงเมืองไทยเดือนก.ค.นี้

           สำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ทั้งนี้คาดว่ารถทั้ง 2 คันถูกส่งออกไปในช่วงต้นเดือน พ.ค. เป็นเบนซ์ 1 คัน ส่วนอีก 1 คัน จำยี่ห้อไม่ได้ ขณะนั้นกรมศุลฯยังไม่มีข้อมูลรถโจรกรรม หลังจากนี้จะร่วมกับดีเอสไอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงของบริษัทผู้นำเข้าและบริษัทที่ขอส่งออกด้วย

           อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลว่ารถที่ถูกโจรกรรมเข้าไปสู่วงจรการประมูล ในจำนวนนี้หากผู้ประกอบการนำไปขายดีเอสไอจะรับไปดำเนินการต่อไป
          นายชัยยุทธ กล่าวต่อถึงกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบความผิดของเจ้าหน้าที่ศุลกากร 9 คน ว่า เป็นการนำเข้ารถยนต์ปี 51-53 ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจรถเห็นว่าผู้ประกอบการน่าจะสำแดงราคาต่ำ จึงให้ผู้นำเข้าวางประกันและเรียกผู้นำเข้ามาชำระภาษีเพิ่ม ต่อมากรมศุลฯเห็นว่าการสั่งวางประกันและออกคำสั่งให้ผู้นำเข้ามาเสียภาษี น่าจะไม่ถูกต้องจึงยกเลิกคำสั่งพร้อมให้คืนเงินประกัน

           โดยกรณีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของศุลกากรเกี่ยวข้อง 9 คน ทั้งนี้ สตง.ขอให้กรมศุลฯตรวจสอบด้วยว่าเป็นการละเมิดสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการ หรือมีความผิดวินัยหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับคดีที่ดีเอสไอกำลังตรวจสอบอยู่มนขณะนี้ และเป็นคนละกรณีกับที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ตรวจสอบการสำแดงราคาต่ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรเกี่ยวข้องจำนวน 108 ราย
          "เรื่องการสำแดงราคาต่ำนั้น เเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่จะไม่รู้ราคาซื้อขาย เพราะคนที่รู้ข้อเท็จจริงคือคนซื้อกับคนขาย ที่ผ่านมาศุลกากรเคยเข้าตรวจบริษัทเพื่อดูเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับราคาแต่ก็ทำได้ยาก ส่วนผู้ขายต้องใช้ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอมีหลักฐานราคาขายที่แท้จริงจากต่างประเทศแล้ว หลังจากนี้กรมศุลฯจะรับไปดำเนินการตรวจสอบเปรียบเทียบกับราคาที่นำมาสำแดง" รองอธิบดีกรมศุลฯ กล่าว.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ