ข่าว

กสท. แจง ลงโทษ'ปรับ'ทีวี ‘ใบ้หวย’ ไม่อยากให้ส่งเสริมเล่นพนัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ประธาน กสท. แจง ลงโทษ'ปรับ'ทีวี ‘ใบ้หวย’ ไม่อยากให้ส่งเสริมเล่นการพนัน  หากปล่อยให้มีรายการใบ้หวยชัดเจนออกเลขไหน โดนปรับแน่!!

      

          'นที ศุกลรัตน์’ ประธาน กสท.แจง ลงโทษทางปกครองปรับสถานีโทรทัศน์ ‘ใบ้ห้วย’ เพราะมีรายการใบ้เลขหวยอย่างชัดเจน  กสท.จึงไม่ต้องการให้สถานีโทรทัศน์ส่งเสริมให้คนเล่นหวย เล่นการพนัน  ระบุ ไม่มีกฎเกณท์ตายตัวว่ารายการแบบไหน เข้าข่าย'ใบ้หวย' โดยเป็นไปตาม ม.37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ

            พ.อ. ดร.นที ศุกลรัตน์  ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ( กสท.) กล่าวถึงกรณี กสท. มีมติปรับทางปกครองผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เนื่องจากมีการร้องเรียนเนื้อหารายการเกี่ยวกับการใบ้หวย สถานีละ 5 หมื่นบาท, รายการที่ส่งผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือมีผลต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจของประชาชนอย่างร้ายแรง สถานีละ 5หมื่นบาท และรายการที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายในเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อจารีตประเพณีไทย สถานีละ 5 หมื่นบาท ว่า  วิธีการตรวจสอบของเรา คือ หลังจากมีผู้ร้องเรียน ก็จะเข้าสู่กระบวนการรับเรื่องร้องเรียน จากนั้นก็จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯจะพิจารณาเนื้อหารายการที่มีการร้องเรียนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่และมีมติ  จากนั้นก็จะส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) พิจารณามีมติอีกครั้ง หากมีมติว่าผิด ก็จะมีบทลงโทษ  แต่ไม่ถึงขนาดมีการตั้งทีมขึ้นมามอนิเตอร์รายการทางสถานีโทรทัศน์เป็นการเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้   

            ‘กรณี ‘ใบ้หวย’ที่สั่งลงโทษปรับทางสถานีไป เป็นเรื่องของการใบ้หวยใต้ดินอย่างชัดเจนว่า จะออกเลขนั้นเลขนี้และเป็นการทำซ้ำหลายครั้ง ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้คนเล่นหวย เล่นการพนัน   กสท.จึงต้องการให้เรื่องแบบนี้น้อยลง ไม่ต้องการให้มีการส่งเสริมการเล่นพนัน  แต่ถ้าเป็นกรณีที่ไม่ถึงกับใบ้หวยชัดเจน คือ ไม่ถึงขนาดว่าจะออกเล่นนั้น เลขนี้  เราก็จะตักเตือนไปว่าอย่าทำอีก  ดังนั้นจึงมีการปรับไปสำหรับสถานีที่เห็นว่ามีรายการใบ้หวยชัดเจนซึ่งก็เป็นการลงโทษปรับอย่างเบา ตอนแรกอนุกรรมการฯเสนอให้ปรับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งถึง 5 แสนบาทด้วยซ้ำ แต่ กสท.เห็นว่าเป็นครั้งแรกจึงปรับแค่ 5 หมื่นบาท ส่วนอีก 2 สถานี คือไทยรัฐทีวีและเวิร์คพอยท์ แค่ตักเตือน ส่วนกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือล็อตเตอรี่นั้น  คงใบ้หวยยาก เพราะไม่มีตัวบน ตัวล่าง ตัววิ่ง เหมือนกับหวยใต้ดิน  และที่ผ่านมายังไม่มีเรื่องเกี่ยวกับล็อตเตอรี่ ’  

          ‘ เรื่องใบ้หวย เป็นครั้งแรกที่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในที่ประชุม กสท. แต่ไม่ได้มีการวางหลักเกณฑ์ไว้ตายตัวว่า จะต้องมีกระทำลักษณะไหนถึงเป็นการใบ้ห้วย  เพราะมีมาตรา 37  ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ บัญญัติไว้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องดูเป็นเรื่องๆไป เป็นดุลยพินิจ แต่ถ้าเป็นกรณีแค่อ่านข่าวเกี่ยวกับหวย คงไม่เป็นไร'

           นที กล่าวต่อไปว่า  ส่วนอีกกรณีที่มีการปรับทางปกครองไปเป็นเรื่องลามก คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาออกรายการสถานีโทรทัศน์ แล้วบอกว่า ตัวเองเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเป็นแสนครั้ง กสท.เห็นว่า เป็นการออกอากาศโดยใช้ถ้อยคำหยาบคายในเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม  

          ด้าน ผศ.ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์  และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า การปรับทางปกครองของ กสท. เกี่ยวกับใบ้หวย เป็นการปรับทางช่อง ไม่ใช่ปรับรายการ  เช่น สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง มี 2 รายการเข้าข่ายใบ้หวย ก็ปรับ5 หมื่นบาท ไม่ใช่ปรับรายการละ 5 หมื่นบาท ส่วนที่ว่าลักษณะไหนเข้าข่ายใบ้หวย  ก็จะดูว่ามีการชักชวนให้คนเล่นการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน หรือไม่  ส่วนกรณีที่เป็นการลามก อนาจาร ผิดศีลธรรม  ก็อย่างเช่น เรื่องที่เกี่ยวกับการร่วมเพศ ใช้คำหยาบ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการว่าเรื่องใดเข้าข่ายผิด  มาตรา 37 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ

         ‘ สำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือล็อตเตอรี่ เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย จึงไม่น่ามีความผิดเข้าข่ายใบ้หวย แต่เราก็ไม่อยากให้มีการกระทำในลักษณะที่ส่งเสริมให้ประชาชนเล่นการพนัน’ 

        ทั้งนี้ มาตรา 37 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551  บัญญัติว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำที่เข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง

          และ ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์  ได้กำหนดโทษทางปกครองเอาไว้  สำหรับผู้รับใบอนุญาตที่ฝ่าฝืนมาตรา 37 ซึ่งมีโทษตั้งแต่เบาไปหาหนัก   คือระวางโทษปรับตั้งแต่ 5 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท และหากกรณีการฝ่าฝืนมาตรา 37  เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง  คณะกรรมการ กสท. สามารถมีมติ ให้พักใช้ใบอนุญาตได้ไม่เกินครั้งละ 30 วัน หรือเพิกถอนใบอนุญาตก็ได้  

          ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ ( 25 พ.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติปรับทางปกครองผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เนื่องจากมีการร้องเรียนเนื้อหารายการเกี่ยวกับการ‘ใบ้หวย’ สถานีละ 50,000 บาท ได้แก่ 1. ช่องเอ็มคอท เอชดี (MCOT HD) “รายการตื่นมาคุย” และ “รายการยิ่งศักดิ์ ยิ่งแซบ” และ 2.ช่องอัมรินทร์ทีวี เอชดี (Amarin TV HD ) “รายการทุบโต๊ะข่าว”

            นอกจากนี้้ ยังมีมติปรับทางปกครอง ช่อง MCOT HD เพิ่มเติม กรณีมีการร้องเรียน “รายการตื่นมาคุย” ว่ามีีเนื้อหารายการส่งผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีผลต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจของประชาชนอย่างร้ายแรง เป็นเงิน 50,000 บาท และปรับช่องไบร์ททีวี กรณี “รายการคันปากอยากคุย” ออกอากาศโดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคายในเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อจารีตประเพณีไทย เป็นเงิน 50,000 บาท ซึ่งทั้งหมดเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 37 แห่งพ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551

            และได้มีการขอความร่วมมือไปยัง ช่อง 8, ไทยรัฐทีวี และช่องเวิร์คพอยท์ทีวี ให้ระมัดระวังการนำเสนอรายการที่อาจเป็นการโน้มน้าว ทำให้เชื่อ หรือที่มีลักษณะในการใบ้หวย และรายการที่นำเสนอทางด้านไสยศาสตร์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ