คดีค้ากาม 'น้ำเพียงดิน' ตัวละครใหม่โผล่อีก 6 ราย

          21 พ.ค.60 - ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ร่วมกับ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบช.ภ.5 และพล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผบช.ภ.5 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีการบังคับหญิงสาวค้าประเวณี จ.แม่ฮ่องสอน และคดีที่เกี่ยวเนื่อง หรือ คดีค้ากามน้ำเพียงดิน ที่มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐพัวพันจำนวนมาก โดยได้มีการประชุมความคืบหน้าของคดีค้ากามน้ำเพียงดิน อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง 10.00 น.เป็นต้นมา เป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังข้อมูลแต่อย่างใด

          จากนั้นเมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ในส่วนที่ดำเนินคดีต่อ สมาชิก อบต.บ้านใหม่ จ.นนทบุรี โดยหลังจากที่ นายชูชาติ สมาชิก อบต.บ้านใหม่ สารภาพแล้วว่า แอบอ้างตัวเป็นผู้ว่าฯด้วยความคึกคะนองหรือมึนเมาหรือไม่ก็ตาม และขอโทษต่อผู้ว่าฯแล้ว ทำให้นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนคนปัจจุบัน อาจพ้นข้อครหา แต่กระนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด ได้มีการสอบสวนพยานแวดล้อมอีกจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ แต่เบื้องต้นพยานหลักฐานทั้งหมดขณะนี้ ค่อนข้างขาดการเชื่อมโยงไปยัง ผู้ว่าราชการจ.แม่ฮ่องสอน คนปัจจุบัน โดยในวันพรุ่งนี้(22 พ.ค.60) จะได้มีการนำตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 รายมาสอบสวนต่อและฝากขังไว้ ที่สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน นอกจากนั้นคาดว่า ตัวนายก อบต.บ้านใหม่เอง ก็ไม่ได้ซื้อหรือมีส่วนรู้เห็นกับการซื้อบริการเด็กสาว เช่นกัน

          "ล่าสุด จำนวนคดีที่ได้มีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามและดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับค้ากามน้ำเพียงดิน ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค5 มีทั้งสิ้น 38 คดี และผู้ต้องหา และผู้ต้องสงสัยอีกจำนวนมาก ขณะนี้มีบุคคลที่คาดว่ามีส่วนรู้เห็นหรือซื้อบริการเด็กสาว เพิ่มอีก จำนวน 6 ราย จากการชี้ตัวยืนยันโดยผู้เสียหายและพยาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และบุคลากรของรัฐ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีนักการเมืองท้องถิ่น 1 ราย โดยกำลังสืบสวนหาหลักฐานเพิ่ม 3 ราย และมีหลักฐานที่เชื่อมโยงชัดเจน เตรียมออกหมายเรียก เพื่อแจ้งข้อหาและดำเนินคดีในเร็ววันนี้ แล้วจำนวน 3 ราย หากไม่มาแสดงตัวตามหมายเรียกก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป"พล.ต.ท.พูนทรัพย์ กล่าว

           พล.ต.ท.พูนทรัพย์ กล่าวต่อว่า ส่วนนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปธ.สมาพันธ์ปลัดแห่งประเทศไทย และปลัดอ.แม่สะเรียง ที่ได้มีการเคลื่อนไหวและให้ข้อมูลต่อสื่ออย่างต่อเนื่องนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการออกหมายเรียกและได้สอบปากคำแล้วครั้งหนึ่ง พบว่าทุกอย่างที่ นายบุญญฤทธิ์ ออกมาแฉ หรือออกมาแถลงต่อสื่อนั้น เกือบทั้งหมด เพียงแค่ฟังเขามา ดูจากข่าว เขาเล่าว่า สรุปข้อมูลเอาเอง ไม่มีสิ่งไหนที่เห็นด้วยตาตนเองสักเรื่อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิของบุญญฤทธิ์ ที่จะทำได้ แต่เชื่อถือได้หรือไม่ประชาชนจงพิจารณาด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เชื่อมั่นได้คือการทำอย่างอย่างเป็นระบบแบบแผนของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ที่มีที่มาหลักฐานพยานและการสอบสวนที่ชัดเจน ซึ่งจะเปิดเผยความจริงทั้งหมดออกมาในที่สุด