ข่าว

แรงงานไทย 52%อยากให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมากกว่านี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจแรงงานไทย ระบุ 65.2% รู้ว่ามีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดย52.8% อยากให้ขึ้นมากกว่านี้ ชี้ค่าแรงขั้นต่ำที่ได้พอดีกับค่าใช้จ่ายแต่ไม่มีเงินเก็บ

     กรุงเทพโพลล์ โดย ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม เรื่อง “แรงงานไทย ใจสู้หรือเปล่า” โดยเก็บข้อมูลกับผู้ใช้แรงงาน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,149 คน พบว่า ผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ 65.2% รับทราบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากเดิม 300 บาท เป็น 305 - 310 บาท ตามที่รัฐบาลมีมติปรับขึ้นค่าจ้างใหม่ เริ่ม 1 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ขณะที่ 34.8% ไม่ทราบข่าว ทั้งนี้ เมื่อถามต่อว่าได้รับค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 300 บาท เป็น 310 บาทแล้วหรือไม่ ส่วนใหญ่ 78.9% ระบุว่า “ได้รับแล้ว” ขณะที่ร้อยละ 21.1 ระบุว่า “ยังไม่ได้รับ”

แรงงานไทย 52%อยากให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมากกว่านี้

      เมื่อถามความเห็นต่อการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของภาครัฐ พบว่า ส่วนใหญ่ 52.8% เห็นว่าน่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมากกว่านี้ ส่วน 32.8% เห็นว่าเป็นการขึ้นที่สมเหตุสมผลแล้ว เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจ และ14.4% เห็นว่า ยิ่งขึ้นยิ่งหางานทำยาก เพราะต้นทุนของนายจ้างเพิ่มสูงขึ้น

      ขณะที่ ถามว่าค่าแรงขั้นต่ำที่ได้รับในแต่ละวันเพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือไม่ ส่วนใหญ่ 47.4% ระบุว่า พอดีกับค่าใช้จ่าย จึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ส่วน 33.8% ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม และ18.8% เห็นว่า เพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม อย่างไรก็ตาม เมื่อให้เปรียบสภาพทางการเงินของตนเองกับสำนวนไทยพบว่า 64.2% เปรียบได้กับสำนวน พออยู่พอกิน 31.4% ชักหน้าไม่ถึงหลัง และ 3.1% เหลือกินเหลือใช้

     นอกจากนั้น เมื่อถามว่าการเข้ามาของแรงงานต่างด้าว จากประเทศเพื่อนบ้าน มีผลต่อการแย่งงาน หรือ กีดกันการทำงานของแรงงานไทยใช่หรือไม่ ส่วนใหญ่ 51.4% เห็นว่า “ไม่ใช่” ขณะที่ 48.6% เห็นว่า “ใช่”

     ขณะเดียวกัน เมื่อสอบถามว่าทราบหรือไม่ว่าค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำมีเพิ่มขึ้น จาก 300 ไปจนถึง 700 แก่กลุ่มแรงงานมีฝีมือ ส่วนใหญ่ 58.7% ระบุว่า “ไม่ทราบ” ขณะที่ 41.3% ระบุว่า “ทราบ” สุดท้ายเมื่อถามว่าหากมีโอกาสอยากได้รับการพัฒนาฝีมือแรงงานด้านใดจากหน่วยงานภาครัฐหรือกระทรวงแรงงาน เพื่อตอบรับไทยแลนด์ 4.0 ส่วนใหญ่ 36.3% อยากได้รับการพัฒนาด้านการทำอาหาร เครื่องดื่มมากที่สุด รองลงมา 20.9% ต้องการพัฒนาด้านไอที คอมพิวเตอร์ และ19.9% พัฒนาด้านไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ