ข่าว

ทูตสหรัฐฯขอไทยกล่อมอาเซียนร่วมแก้ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รองโฆษกรบ." รับ "กลินที เดวีส์" นำจนท.ฝ่ายการเมืองระดับสูงสหรัฐพบนายกฯ เปรยขอความร่วมมือกล่อมประเทศอาเซียนร่วมแก้ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี

 

 

          28 เม.ย. 60 - พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายกลินที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า นายเดวีส์พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองของสหรัฐอเมริการะดับสูง ซึ่งไม่ได้เดินทางมาอย่างเป็นทางการ แต่มาพบปะนายกรัฐมนตรีในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประชุมอาเซียน ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อหารือประเด็นความร่วมมือ โดยสหรัฐได้แสดงข้อกังวลทั้งปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ปัญหาทะเลจีนใต้ การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างไร   
          "เราได้บอกไปว่าเรามีจุดยืนที่ชัดเจน เช่น ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี เรามีมติของสหประชาชาติที่เราปฏิบัติตามและคิดว่าน่าจะมีการหารือกันในอาเซียนด้วย แต่ปัญหาทะเลจีนใต้ถือว่าการแก้ปัญหามีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ละฝ่ายไม่ได้มีประเด็นที่จะนำไปสู้ความขัดแย้งบานปลาย ซึ่งจะมีการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีให้เรียบร้อยโดยเร็ว" พล.ท.วีรชน กล่าว  
          ผู้สื่อข่าวถามว่า สหรัฐอเมริกาได้ขอให้ไทยไปพูดในประเทศสมาชิกอาเซียนที่ยังไม่ปฏิบัติตามมติสหประชาชาติ เรื่องความร่วมมือแก้ปัญหาคาบสมุทรเกาหลีหรือไม่ พล.ท.วีรชน กล่าวว่า "สหรัฐไม่ได้พูดตรงๆ เพียงขอรับการสนับสนุนให้ช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งเราบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องอาเซียนที่จะต้องหารือร่วมกัน ไทยคงไม่สามารถตัดสินใจแทนประเทศใดประเทศหนึ่งได้ ต้องเป็นฉันทามติของกลุ่มประเทศอาเซียน แนวโน้มจะเป็นอย่างไรเราก็คงยังตอบไม่ได้ อย่างไรก็ตามในเวทีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการคาดว่า น่าจะมีการหารือเรื่องเหล่านี้"

          พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นอกจากนี้ในการหารือ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงประเด็นการเมือง ซึ่งขณะนี้เราได้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว เท่ากับประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่ความเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ มีการเลือกตั้งทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป และขั้นตอนที่ได้วางไว้ ช่วงต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องของการผ่านร่างกฎหมายฉบับต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และได้พูดคุยถึงกรอบการวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่ามีวัตถุประสงค์ มีหลักเกณฑ์การปฏิบัติ และการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้อย่างไร ซึ่งยุทธศาสตร์ 20 ปี แม้มีเวลายาวนาน แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะประกอบไปด้วยแผน 5 ปี 4 แผน พร้อมที่จะมีการปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงต่างๆ ที่เหลือเป็นการหารือในเรื่องการส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุน ซึ่งไทยได้ขอบคุณสหรัฐฯ ที่มีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องแม้จะมีข้อจำกัดในบางเรื่อง แต่ก็มีแนวโน้ม และทิศทางที่ดี ประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะปัจจุบันสหรัฐฯ มีรัฐบาลใหม่แต่ไทยก็ยืนยันว่ามีความพร้อมในการร่วมมือในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง การเมือง  
          เมื่อถามว่า ได้ถือโอกาสพูดคุยกันถึงแนวทางความร่วมมือต่อไปอย่างไร หลังนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศใช้นโยบายโดดเดี่ยวนิยม (อเมริกันเฟิร์ส) พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ได้มีการพูดถึงเฉพาะในส่วนของประเทศไทย เรายังมั่นใจว่าในนโยบายของทรัมป์ยังคงมีศักยภาพสำหรับความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศไทย เพราะเรามีความสัมพันธ์กันมายาวนานถึง 184 ปี มีความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งทางสหรัฐฯ ยืนยันว่าประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญในภูมิภาค ยืนยันความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ต่อไป.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ