“อนุพงษ์” โทรจี้ "ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน" ปมค้ากามเด็ก

          26 เม.ย.60 – ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า  กรณีที่นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกนางเอ (นามสมมติ) มารดาของเหยื่อค้ามนุษย์ได้ซักทอดพาดพิงเข้าไปมีส่วนพัวพันการค้าบริการทางเพศเยาวชนจ.แม่ฮ่องสอน ทำให้กระทรวงมหาดไทยต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) ในช่วงของการประชุมหารือข้อราชการประจำสัปดาห์ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม  และนายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง รัฐวิสาหกิจในสังกัด อาทิ นายกฤษฎา บุญราช ปลัดมท. นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดมท. อธิบดีทุกกรม  และรัฐวิสาหกิจในสังกัด โดยระหว่างการประชุม นายประยูร ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ได้ขอตัวออกจากห้องประชุมเวลาประมาณ 11.00น. เพื่อเดินทางไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน และขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองเมื่อเวลา 13.10น.

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างช่วงท้ายของการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ ได้เล่าให้บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมว่า ตนได้โทรสายตรงไปหาผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน แล้วได้สอบถามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นอย่างไร แล้วที่มีผู้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมในเรื่องดังกล่าวได้มีการแก้ไขปัญหาไปอย่างไรบ้าง ซึ่งบรรยากาศภายในห้องประชุมทุกคนต่างนั่งเงียบ  ได้แต่รับฟังเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการเสนอความเห็นขึ้นมาแต่อย่างใด

          “ผมได้สอบถามผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนแล้ว เป็นผู้ว่าฯต้องรู้ทุกเรื่อง ไม่รู้ได้ไง พื้นที่จังหวัดเล็กๆเอง การเป็นผู้ว่าฯต้องรู้ทุกเรื่องสิ” รมว.มหาดไทย กล่าวเชิงสั่งสอน

          ขณะที่นายประยูร กล่าวก่อนเดินทางไปจ.แม่ฮ่องสอนว่า  การลงพื้นที่ไปสอบสวนครั้งนี้ จะเป็นการสอบพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผู้กล่าวหาคือมารดาของเหยื่อ และผู้ถูกกล่าวหาคือผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน โดยจะใช้ระยะเวลาในการสอบสวนประมาณ 2 วัน ตนจะเดินทางกลับมา แต่ยังไม่ใช่เป็นการสรุปผลการสอบสวนทั้งหมด เพราะจะต้องมาประมวลข้อมูลการสอบกันอีกครั้ง

(นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ขอลาประชุมบินด่วนสอบพ่อเมืองแม่ฮ่องสอนปมซื้อกามเด็ก)

          ด้านนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย. กล่าวภายหลังการประชุมหารือข้อราชการว่า ตามกรอบเราจะใช้เวลา 30 วัน แต่การดำเนินการจริงๆจะพยายามเร่งให้เร็วที่สุด ถ้าเสร็จก่อนก็จะดี สำหรับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดนี้ มี 5 ราย ประกอบด้วย นายประยูร เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่เป็นนิติกรระดับชำนาญการอีก 4 ราย ประเด็นหลักในการสอบสวนก็จะเน้นไปที่การพาดพิงมายังผู้ว่าฯ มีพยานหลักฐานยืนยันหรือไม่ เพื่อให้ได้ผลข้อเท็จจริงนำมาเสนอตน จากนั้นก็จะสรุปเพื่อนำเสนอรมว.มหาดไทยต่อไป

          “ส่วนเอกสารคำสั่งที่มอบหมาย ยืนยันว่า ได้ออกคำสั่งไปเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (25เม.ย.) มีเพียงสำเนาเดียว มอบให้รองปลัดมท.ถือออกไปแล้ว เอกสารดังกล่าวก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากมีรายละเอียดแนวทางของการสอบสวนระบุไว้อยู่ หากเผยแพร่ออกไปเกรงว่า จะเป็นการกระทบต่อคู่กรณี 2 ฝ่ายได้” นายกฤษฎา กล่าว.

          ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่จะมีการสอบสวนไปยังผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนคนเก่าที่ขณะนี้ผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เนื่องจากผู้ว่าคนปัจจุบันยืนยันในความบริสุทธิ์และเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ว่า ขั้นตอนต้องสอบสวนคนที่มีชื่อถูกพาดพิงจากผู้กล่าวหาก่อน จะยังไม่ข้ามไปสอบสวนคนอื่นๆ ยกเว้นถ้าได้ข้อเท็จจริงเรื่องแรก ไปมีข้อมูลว่า ใครเกี่ยวข้องกับใครเพิ่มเติม ทางกระทรวงมหาดไทยต้องพิจารณาผลสอบสวนรอบที่กำลังไปสอบอยู่นี้ก่อน จึงจะตอบได้จะสอบสวนใครเพิ่มหรือไม่สอบเพิ่มหรือจะยุติ แล้วต้องไปดำเนินคดีทางวินัยเท่านั้น.