ข่าว

จบคดี !! “ กำนันเซี๊ยะ” รุกที่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จบคดี “ กำนันเซี๊ยะ” รุกที่ราชพัสดุกว่าพันไร่ ศาลฎีกา ตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน ตัวยังหนี

         18 เม.ย.60-“ กำนันเซี๊ยะ” หนีคดีบุกรุกที่ราชพัสดุ เมืองกาญจน์ - ราชบุรี 1.19 พันไร่ ศาลอ่านคำพิพากษาฎีกาลับหลังจำเลย ให้รับโทษคุก 2 ปี 8 เดือน หลังปี 59 เจอหมายจับ รับโทษฎีกาคดีฮั้วประมูลแล้ว 5 ปี   
          ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 18 เม.ย. 60 เวลา 09.30 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.55/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ อายุ 74 ปี ปี ผู้กว้างขวางใน จ.กาญจนบุรี และอดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน เข้าไปยึดถือครอบครองที่ดิน หรือก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ในที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเนื้อที่เกินกว่า50 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9 และ มาตรา 108 กรณีเมื่อต้นปี 2533 - 25 มี.ค.47จำเลยได้เข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่าปลูกพืชไร่ ให้บุคคลอื่นเช่าและใช้ประโยชน์ในที่ดิน เนื้อที่ 299 ไร่ 52 งานในที่ดินราชพัสดุเลขทะเบียน กจ.209 หมู่12 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และที่ดิน เนื้อที่ 900 ไร่ 2 ตารางวา 32 งานในที่ดินราชพัสดุเลขทะเบียน กจ.209 หมู่8 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องติดต่อกันทั้งหมด รวมเนื้อที่ทั้งหมด 1,199 ไร่ 2 ตารางวา 84 งาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 12 ม.ค.55  
          อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานัดปรากฎว่า นายประชา หรือกำนันเซี๊ยะ จำเลย ไม่ได้เดินทางมาศาลอีก หลังจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้ออกหมายจับกำนันเซี๊ยะไปแล้วที่ไม่มาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาฎีกาในครั้งแรก ดังนั้นวันนี้ศาลอาญา จึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยทันที เนื่องจากไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุใดซึ่งมีพฤติการณ์เชื่อว่าจะหลบหนี ซึ่งกำนันเซี๊ยะ มีพฤติการณ์ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีตั้งแต่ชั้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 25 ม.ค.59 
          โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค.57 ให้จำคุก กำนันเซี๊ยะเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ฐานกระทำผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 911 และ มาตรา 108 ทวิ วรรคหนึ่ง เข้าไปครอบครองที่ดินของรัฐ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุและเป็นที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์
          ขณะที่ชั้นศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้ เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิ (1) (3) ให้จำคุก 3 ปี ซึ่งกำนันเซี๊ยะ จำเลยได้ยื่นฎีกา
          ทั้งนี้ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินท้องที่ อ.เมืองกาญจนบุรี อ.วังขนาย อ.บ้านทวน และอ.วังกะ จ.กาญจนบุรี พ.ศ.2481 เพื่อประโยชน์ในราชการทหาร ลงวันที่ 11 ต.ค.2481 โดยกำหนดให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่าที่อยู่ในเขตหวงห้ามดังกล่าวตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาครอบคลุมที่ดินในท้องที่ อ.จอมบึง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กับ อ.ด่านมะขามเตี้ย ซึ่งได้ปิดประกาศให้ประชาชนทราบโดยทั่วไปแล้ว โดยที่ดินหวงห้ามครอบคลุมกับที่พิพาทด้วย
          แม้ขณะที่จำเลยซื้อที่ดินพิพาทดังกล่าวมาจากนายไพโรจน์ เชาว์ดี หรือเสี่ยอู๊ด มานั้นสภาพที่ดินมีการทำประโยชน์โดยปลูกพืชไร่อยู่ก่อนแล้วก็ตาม แต่ที่ดินพิพาทมีจำนวนมากถึง 1,199 ไร่เศษ การที่จำเลยตกลงซื้อที่ดินพิพาทมาลงทุนทำประโยชน์ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จำเลยน่าจะต้องศึกษาหรือสอบถามความเป็นมาของที่ดินพิพาทจากบุคคลหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แต่จำเลยกลับตกลงซื้อโดยไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายและที่ดินไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน
          นอกจากนั้นจำเลยได้เข้ายึดถือครอบครองที่ดินพิพาทของรัฐ โดยไม่ได้ขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีจึงมีเหตุให้เชื่อได้ว่า จำเลยยึดถือครอบครองที่ดินพิพาท โดยรู้ว่าเป็นที่ดินหวงห้ามที่ใช้เพื่อประโยชน์ของราชการทหาร ไม่ใช่เป็นเข้ายึดถือครอบครองโดยขาดเจตนาที่จะเข้าใจผิดว่าตนมีสิทธิ์ครอบครองได้โดยชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด
          ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่เนื่องจากทางนำสืบของจำเลยรับว่าได้เข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินดังกล่าว กรณีจึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล มีเหตุควรลดโทษให้ จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน  นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
          ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับกำนันเซี๊ยะ นั้นก็ถูกศาลอาญา ออกหมายจับเมื่อวันที่  25 ม.ค.59 เพื่อให้ตามจับตัวมารับโทษที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุก 5 ปีคดีร่วมกับภรรยาและลูกน้องฮั้วประมูล จ.กาญจนบุรีหลายโครงการเมื่อปี 2542 - 44 ด้วย
          นอกจากนี้ยังมีคดีบุกรุกที่ดินกรมธนารักษ์ หมายเลขดำ อ.4849/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็น โจทก์ยื่นฟ้อง กำนันเซี๊ยะ  และนางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา อายุ 51 ปีอีกด้วย แต่ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 8 ส.ค.59

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ