"ผบ.นรด."เผยภาพรวมตรวจเลือกทหารฯเรียบร้อย

 

          12 เม.ย. 60 - พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) กล่าวถึงภาพรวมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 1-12 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นปีนี้ภาพรวมการตรวจเลือกทหารฯเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งยอดที่ทางราชการมีความต้องการทหารกองประจำการปีนี้จำนวน 103,097 คน เท่าที่ทราบจากคณะกรรมการตรวจเลือกฯทั่วประเทศจำนวน 153 คณะ พบว่าการตรวจเลือกตั้งแต่วันที่ 1 - 11 เม.ย. มีผู้สนใจเข้ารับการตรวจเลือกฯจำนวน 529,000 คน และมีผู้ที่สมัครใจเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการจำนวน 50,394 คน คิดเป็นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์จากยอดความต้องการในปีนี้ ดังนั้นแสดงให้เห็นว่ามีคนให้ความสนใจสมัครเข้ารับราชการทหารเป็นทหารกองประจำการมากขึ้น 

          พล.ท.วีรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนบุคคลที่มีโรคประจำตัวในปีนี้ทางคณะกรรมการฯก็ให้โอกาสไปตรวจโรคเพื่อขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลทหารก่อนเข้ารับการตรวจเลือกฯ เพื่อให้เกิดความสะดวกและแพทย์ประจำหน่วยตรวจเลือกสามารถวินิจฉัยโรคได้รวดเร็ว ทำให้ใช้ระยะเวลาในการตรวจสั้นลง โดยภาพรวมทุกหน่วยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนที่มีปัญหาก็เป็นปัญหาด้านธุรการเล็กน้อย เช่น เรื่องสถานที่คับแคบ ซึ่งในปีต่อไปก็จะมีการปรับปรุงเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่มาร่วมเข้ารับการตรวจเลือกฯก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้านคณะกรรมการตรวจเลือกฯก็มีความเข้มงวดและปฏิบัติดี อีกทั้งในปีนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องการทุจริต อย่างไรก็ตามหลังจากการตรวจเลือกฯเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีการส่งคณะกรรมการของกองทัพบกโดยหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ไปตรวจสอบรายละเอียดเพื่อเก็บข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบข้อสงสัยว่ามีสิ่งใดที่ทุจริตก็จะดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เพื่อลงโทษทันที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการร้องเรียนใดๆ และในปีนี้มีความเรียบร้อยอยู่ในเกณฑ์ดีมาก 

          เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายพลทหาร แต่ยอดผู้สมัครเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการมีจำนวนมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แสดงว่าคนยังมีความเชื่อมั่นในการเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ พล.อ.วีรชัย กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นความผิดเฉพาะตัว และผู้ที่เกี่ยวข้องก็ถูกลงโทษทั้งทางอาญาและทางวินัยเหตุการณ์เหล่านี้ในตอนนี้ผู้บังคับหน่วยล้วนแต่ให้ความสำคัญ ไม่ได้ปล่อยปละละเลยเหมือนในอดีตที่ผ่านมา และรูปภาพหรือคลิปวิดีโอต่างๆที่เผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดียก็เป็นภาพจากเหตุการณ์เก่าๆ