ข่าว

กรมคุกสั่งสอบเหตุนักโทษดับคาคุกตะกั่วป่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อธิบดีราชทัณฑ์ สั่งสอบเหตุนักโทษเสียชีวิตในคุกตะกั่วป่า เบื้องต้นประธานเขต 8 รายงานคู่กรณีก่อเหตุทะเลาะวิวาท ถูกสั่งฝึกวินัยจนเกิดฮีทสโตรก

 

          7 มี.ค.60 - นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีนายสุริยา ศุภรักษ์ อายุ 47 ปี นักโทษในคดียาเสพติด เรือนจำตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เสียชีวิตในเรือนจำอำเภอตะกั่วป่า โดยสภาพภายนอกมีบาดแผลถลอกทั่วร่างกายว่า หลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานเรือนจำเขต 8 เข้าไปตรวจสอบ โดยเบื้องต้นได้รับรายงานข้อเท็จจริงว่านายสุริยา และนักโทษอีก 1 คนก่อเหตุวิวาทกันในเรือนนอนเวลา 04.00 น. เมื่อถึงเวลา 06.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเปิดเรือนนอนเพื่อปล่อยนักโทษออกมาทำกิจกรรมประจำวันภายในแดนคุมขัง ผู้คุมจึงสั่งให้คู่กรณีทั้ง 2 ราย ลงมาฝึกวินัย ซึ่งการฝึกวินัยจะใช้กับนักโทษที่มีพฤติกรรมเกะกะเกเรเท่านั้น สำหรับคู่กรณีถูกสั่งให้นอนตากแดดและกลิ้งไปกลิ้งมาเป็นเหตุให้ร่างกายมีรอยไหม้ และวันเกิดเหตุมีแดดแรงจึงทำให้นักโทษเกิดอาการฮีทสโตรกหรือโรคลมแดดเสียชีวิต ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ยังไม่ได้ปักใจเชื่อรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยจะรอฟังรายงานผลชันสูตรอย่างเป็นทางการว่า สภาพศพนายสุริยามีสภาพตับแตก ซี่โครงหักตามที่ญาติระบุอย่างไร หากพบว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายรุนแรงก็จะสอบสวนขยายผลให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะพยานในที่เกิดเหตุที่ต้องเข้าให้ข้อมูลว่าคู่กรณีวิวาทกันอย่างไร ใช้เวลาวิวาทนานเท่าไหร่ และลักษณะการแตกหักของซี่โครงเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต                  
          นายกอบเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงวันหยุดในเทศกาลสงกรานต์ได้กำชับให้วางมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยในเรือนจำอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะช่วง 2-3 เดือนก่อนเทศกาลวันหยุดยาว ซึ่งทุกเรือนจำจะต้องงดสั่งผลไม้และน้ำผลไม้ เข้ามาเป็นอาหารเลี้ยงผู้ต้องขัง และกำชับให้ตรวจค้นอย่าให้ผู้ต้องขังลักลอบนำผลไม้  ข้าว ขนมปัง หรือวัตถุดิบที่มีเชื้อเป็นส่าเหล้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังนำไปหมักเหล้าดื่มฉลองในเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ การที่เรือนจำเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังดื่มสุราจนมึนเมาและลุกลามเป็นเหตุวิวาทในเรือนจำ สำหรับเรือนจำที่มีโรงงาน โรงไม้ ให้ตรวจสอบไม่ให้ผู้ต้องขโมยแลคเกอร์ ทินเนอร์ออกมา เนื่องจากหลายปีก่อนเคยเกิดเหตุผู้ต้องขังไม่มีความรู้ได้นำเมทิลแอลกอฮอล์ในทินเนอร์มาผสมเป็นสุราดื่มจนตาบอด.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ