"บอส" ลั๊ลลา... อัยการ แถลง "ยังฟ้องไม่ได้" คดีชน ตร.

          30 มี.ค.60 - นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้ากรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส  ขับรถเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 ที่ผ่านมา หลังคดีมีความยืดเยื้อมานานกว่า 5 ปี ว่า วันนี้ทางสำนักงานอัยการได้ทำหนังสือให้นายวรยุทธ เข้าพบพนักงานอัยการ เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาล ภายหลังตลอด 1 ปีที่ผ่านมา นายวรยุทธ มีการทำหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบโดยอ้างว่าติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ รวมถึงร้องขอความเป็นธรรมให้สอบพยานใหม่หลายครั้งในประเด็นเกี่ยวกับความเร็ว และการร้องขอความเป็นธรรมไปยังคณะกรรมาธิการกฏหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อช่วงกลางปี 2559 ที่ผ่านมาด้วย แต่เมื่อวันนี้ที่ 23 มี.ค.2560 ที่ผ่านมาทางตัวแทนทนายความของนายวรยุทธ ได้มีการส่งหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานอัยการอีกครั้ง โดยอ้างว่าติดภารกิจอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุญาตให้เลื่อนเป็นวันที่ 27 เม.ย.โดยกำชับผ่านทนายความไม่ให้มีการเลื่อนเข้าพบ และหากว่าในการนัดหมายครั้งต่อไป นายวรยุทธ ยังมีการขอเลื่อนการเข้าพบโดยใช้เหตุผลเก่าอีก ทางสำนักงานอัยการจะพิจารณาในการออกหมายจับต่อไป

          "ทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นให้สั่งฟ้องไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถฟ้องได้ เพราะทางผู้ต้องหา ได้ร้องขอความเป็นธรรม หลายต่อหลายครั้ง และทางเจ้าหน้าที่ได้มีการสอบไปแล้ว  และนัดให้ผู้ต้องหามาพบ แต่ผู้ต้องหา ก็มีการขอเลื่อนมาโดยตลอด พร้อมอ้างว่าติดภารกิจที่ต่างประเทศ" รองโฆษกอัยการนายประยุทธ กล่าว

          นายประยุทธ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีของนายวรยุทธ มีความผิดตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถหลบหนีไม่ให้การช่วยช่วย ซึ่งในส่วนของข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดมีอายุความเพียง 1 ปี และขณะนี้หมดอายุความไปแล้ว แต่ในข้อหา ขับรถโดยประมาท มีอายุความ 15 ปี จะหมดอายุความในวันที่ 23 ก.ย. 2570 ส่วนข้อหาหลบหนีไม่ให้การช่วยเหลือ มีอายุความ 5 ปี จะหมดอายุความในวันที่ 23 ก.ย. 2560 ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การดำเนินการทางคดีของทางอัยการไม่ใช่การประวิงเวลา แต่ผู้ต้องหามีการขอเลื่อนเข้าพบ และยื่นขอความเป็นธรรมในหน่วยงานต่างๆ ทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการ

 (คลิกอ่านข่าวฉบับละเอียด ที่นี่)