ข่าว

ประมูลCCTVใต้ส่อโกงตายยกเข่ง !!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปปท.พบกล้องวงจรปิด สพฐ.ชายแดนใต้ส่อทุจริตเพียบ ล็อคสเป็ค ตั้งราคากลางสูงกว่าราคาตลาด อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานติดตั้งไม่ครบ มีนายปทหารร่วมเป็นกรรมการตรวจรับ

         28 มี.ค. พ.ต.ท สามารถ ไชยณรงค์  ผอ.สำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)เขต 9 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามโครงการ  Safe Zone School (CCTV) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  (สพฐ.) ซึ่งเป็นการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ เพื่อติดตั้งใน 12  เขตพื้นที่การศึกษา ใน จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และ 4 อำเภอ จ.สงขลา  ตั้งแต่ปี 2557  โดยกำหนดติดตั้งแล้งเสร็จใน ปี 2558จำนวน 1,104 จุด 1,092 โรงเรียน ราคาติดตั้งกล้องชุดละ 366,920 บาท มูลค่ากว่า 405 ล้านบาท ว่า หลังจากการตรวจสอบพบความผิดปกติหลายประเด็น ทั้งการล็อคสเป็ค การตั้งราคากลางที่สูงกว่าราคาในท้องตลาด สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไม่รองรับระบบสัญญาณไฟ และไม่เชื่อมต่อกับระบบการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่  

        นอกจากนี้บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ติดตั้งอุปกรณ์ไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ ในสัญญา. สัญญาณภาพไม่ชัดเจน ไม่ตรงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยก่อนหน้านี้มี 12 บริษัทเข้าร่วมโครงการ แต่ถูกตัดออกไป คงเหลือเพียง 4  บริษัทที่เข้ารับงานใน 12 เขตพื้นที่  

       พ.ต.ท.สามารถ กล่าวอีกว่า แม้ว่าการติดตั้งกล้องวงจรปิดจะแล้วเสร็จ แต่คณะกรรมการตรวจรับทุกชุดอาจจะต้องมีความผิดเนื่องจากลงนามตรวจรับอุปกรณ์ที่ไม่ตรงตามข้อตกลงในสัญญา ขณะนี้ ป.ป.ท.ภาค 6 อยู่ระหว่างการขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวจากโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอมาตรวจสอบทั้งหมด จากการสุ่มตรวจบางโรงเรียนพบว่า ต้องมีการติดตั้ง 16 จุด แต่ปรากฏว่ามีการติดตั้งจริงเพียง 6 จุดเท่านั้น ถือเป็นการติดตั้งไม่ครบจำนวน 

        อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า ในการตรวจรับของคณะกรรมการฯของโรงเรียนจะมีนายทหาร 1 นายเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯตรวจรับด้วย ดังนั้น หากพบว่าคณะกรรมการฯตรวจรับทั้ง ๆ ที่พบว่า ไม่เป็นไปตามทีโออาร์ที่กำหนดไว้ จะเสนอให้บอร์ดป.ป.ท.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกับคณะกรรมการตรวจรับทุกชุด  นอกจากนี้ยังได้ส่งข้อมูลเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ให้กับสำนักงานตรวจเงืนแผ่นดิน (สตง.)ในพื้นที่ตรวจสอบแล้ว 

       นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า  ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยเข้าไปตรวจสอบในนามของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เนื่องจากพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งให้ปปท.เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา และขณะนี้ผลการตรวจสอบเอกสารหลักต่าง ๆ ค่อนข้างมีความชัดเจน โดยในส่วนของป.ป.ท.จะเสนอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และในกรณีที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐในระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ