ข่าว

เดินเองได้ไม่ต้องพึ่งรถเข็ญ...สิ่งมหัศจรรย์เกิดจากแรงอธิษฐาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ด้วยรักและภักดี ประชาชนทั่วประเทศใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์เดินทางมาเป็นครอบครัว -หมู่คณะ ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ

     วันที่ 25 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมศพในวันนี้ มีประชาชนทั่วประเทศใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์เดินทางมาเป็นครอบครัว หมู่คณะ ตั้งแต่เช้ามืด โดยสำนักพระราชวังเปิดประตูเมื่อเวลา 04.50 น.ให้เข้าไปรอขึ้นกราบพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

เดินเองได้ไม่ต้องพึ่งรถเข็ญ...สิ่งมหัศจรรย์เกิดจากแรงอธิษฐาน

 นางเปรมจิตร ศรีสง่า

     นางเปรมจิตร ศรีสง่า อายุ 79 ปี ชาวเขตบางนา กรุงเทพฯ กล่าวภายหลังเข้ากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 193 ว่า ไม่เคยมีโอกาสได้รับเสด็จในหลวง ร.9 ขณะที่ยังมีพระชนมชีพอยู่ แต่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงงานเพื่อคนไทย มีโครงการพระราชดำริมากมายที่สร้างประโยชน์ และพระราชทานคำแนะนำดีๆ อาทิ เกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง จึงอยากตอบแทนและอยากมาเฝ้าฯ รับเสด็จใกล้ชิด ซึ่งคือการมากราบพระบรมศพแทบทุกวัน ไม่ว่าจะยืนต่อแถวทั้งฝนตก นั่งรอต่อแถวร้อนอยู่ในเต็นท์ก็อดทนได้และรู้สึกมีความสุขที่ได้มา มีความสุขที่ได้เห็นทุกคนที่มาด้วยหัวใจเดียวกัน ต่อแถวรอทั้งสีหน้ายิ้มแย้มพูดจาทักทายกัน แม้จะร้อนหรือนานเพียงใด

      “การมากราบพระบรมศพได้สร้างความมหัศจรรย์ในชีวิตดิฉัน คือก่อนที่พระองค์สวรรคต ร่างกายดิฉันเสื่อมโทรมตามวัย ทำให้เดินไม่ไหว ไม่มีแรง ปวดเมื่อยตามจุดต่างๆ กระทั่งมากราบพระบรมศพในช่วงแรกยังต้องนั่งรถวิลแชร์เข้ามา ตอนนั้นจึงได้อธิษฐานต่อหน้าพระบรมโกศขอให้กลับมาเดินได้ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระคนอื่น ประมาณครั้งที่ 6 ที่มากราบพระบรมศพ ดิฉันก็กลับมาเดินได้ เดินดี ร่างกายแข็งแรง อย่างทุกวันนี้ก็เดินทางมาลำพังด้วยรถประจำทาง” นางเปรมจิตรกล่าวและเล่าว่าระหว่างทางที่มากราบพระบรมศพได้เห็นการก่อสร้างพระเมรุมาศ ก็คิดว่าถ้าถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพไปแล้วจะอยู่อย่างไร คงใจหายมากๆ ก็เป็นสิ่งที่อยากชวนคนไทยมากราบพระบรมศพ ลองมาสักครั้งในชีวิต บางคนอาจบอกว่าไปไม่ไหว ไม่มีเวลา ก็อยากบอกว่างานนี้ไม่ได้มีทุกวัน และที่สำคัญการได้มาอธิษฐานต่อหน้าพระบรมศพ จะได้สมตามปรารถนา

เดินเองได้ไม่ต้องพึ่งรถเข็ญ...สิ่งมหัศจรรย์เกิดจากแรงอธิษฐาน

     ด้านนางมณีวรรณ สุขบัติ อายุ 65 ปี ข้าราชการครูบำนาญ โรงเรียนบ้านกุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้านรวม 32 คน เหมารถบัสโดยสารมากันเองคนละ 700 บาท ทุกคนอยากมากราบพระองค์ท่านนานแล้วแต่เนื่องจากบ้านอยู่ไกล ประกอบกับสุขภาพไม่ค่อยดี และบางคนต้องเลี้ยงหลานเพราะลูกทำงาน วันนี้ลูกหยุดงานจึงถือโอกาสชวนกันมารู้สึกดีใจและปลาบปลื้ม นับเป็นบุญของพวกเราที่ได้มีโอกาสเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ในครั้งนี้ ก่อนนี้ก็ได้แต่ไปทำบุญที่วัดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอุทิศถวายพระองค์

        “ก่อนเกษียณครูเคยสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านกุดเชียงหมี ซึ่งทางโรงเรียนของเราได้รับมอบหมายให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ ในปี 2548 ได้รับเงินซึ่งเป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 4 แสนบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการฯ เป็นศูนย์เรียนรู้ ให้นักเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงโรงเรียนอื่น ๆได้มาศึกษา นอกจากนี้ยัได้ขยายผลไปยังโรงเรียนต่าง ๆภายใน จ.ยโสธร อีก 26 โรงเรียนด้วย ถึงแม่ครูจะเกษียณมา 6 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวันด้วยการปฏิบัติดี และรู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีส่วนในการถ่ายทอดและขยายแนวพระราชดำริของพระองค์ และรู้สึกประทับใจทุกโครงการที่พระองค์ทำเพื่อประชาชนคนไทย” นางมณีวรรณ กล่าวด้วยความซาบซึ้ง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ