ข่าว

เอาช้างกูคืนมา !! หาย 14 ปีตามเจอ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.ภูเก็ต ขอ "ช้าง" คืน ถูกขโมยเมื่อ 14 ปีก่อน ตั๋วรูปพรรณ - เลขไมโครชิพยันชัด 100%


               24 มี.ค. 60 ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต  นายวัน เรียงเงิน อายุ 70 ปี และนายสมศักดิ์ เรียงเงิน อายุ 35 ปี พี่ชายและน้องชายของ นายชอบ เรียงเงิน อายุ 58 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เจ้าของช้างพังโย อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งถูกคนร้ายขโมยมาจากพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อปี 2546 (14 ปีก่อน) เข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังสืบทราบว่าช้างพังดังกล่าวอยู่ที่ปางช้างแห่งหนึ่งใน ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต แต่หลังเจรจาและไม่สามารถนำช้างกลับคืนมาได้ เนื่องจากเจ้าของปางช้างอ้างว่าได้ซื้อช้างเชือกดังกล่าวต่อมาในราคาที่ค่อนข้างสูงมาก

               โดย นายวัน ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ว่า ช้างพังโยเป็นช้างของน้องชายคือ นายชอบ จดตั๋วรูปพรรณช้างเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2544 ที่ จ.สุรินทร์ และได้นำช้างมาทำงานกับปางช้างในพื้นที่ จ.ภูเก็ต - พังงา และต่อมาในปี 2546 ได้นำช้างพังโยไปทำงานที่ปางช้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กระบี่ ซึ่งขณะนั้นช้างพังโยกำลังตั้งท้อง

               หลังจากเสร็จงานประจำวันก็ได้นำไปผูกไว้ในป่าใกล้ๆ กับปางช้าง แต่เช้าวันรุ่งขึ้นกลับไม่พบช้างพังโยแล้ว พบเพียงรอยยางรถเข้ามาจอดบริเวณที่ผูกช้างไว้ และได้พยายามติดตามช้างพังโยมาตลอด 14 ปี จนกระทั่งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีพลเมืองดีส่งภาพช้างพังโยมาให้ เพื่อตรวจสอบตำหนิรูปพรรณว่าใช่เชือกเดียวกันหรือไม่

               ซึ่งจากภาพค่อนข้างแน่ชัดว่าเป็นช้างพังโย จึงเดินทางมายัง สภ.ฉลอง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารเรือจากฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้าง และตรวจเลขไมโครชิพช้าง ซึ่งตั๋วรูปพรรณของตนที่นำมาด้วยนั้นเป็นตั๋วรูปพรรณที่ทำไว้เมื่อประมาณปี 2544 ที่จังหวัดสุรินทร์ ก่อนที่ช้างจะหาย

               โดยระบุชื่อพังโย มีตำหนิที่ขาหลังช้างทั้งสองข้าง ซึ่งมีรอยเชือกรัด ซึ่งเป็นตัวเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ และไมโครชิพในตั๋วระบุ เลขที่ 121675455 จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจเลขไมโครชิพพบว่า ตรงกัน เครื่องตรวจแจ้งระบุเลขเดียวกัน และตนก็มีภาพของพังโยก่อนจะหายไปเมื่อประมาณ 14 ปีที่ผ่านมา มาแสดงด้วย

               ส่วนตั๋วรูปพรรณของปางช้างที่นำมาแสดงระบุว่าชื่อพังน้ำเพชร มีตำหนิเดียวกัน แต่เลขไมโครชิพ ระบุเป็นเลขที่ 121675544 ซึ่ง 3 ตัวหลังคลาดเคลื่อน รวมถึงระบุขอออกตั๋วฯ ที่จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ จึงมีความมั่นใจว่าช้างเชือกดังกล่าวเป็นของตนเอง 100 เปอร์เซ็นต์

               จากการพูดคุยกับเจ้าของปางช้างทราบว่า ได้ซื้อช้างพังโย หรือพังน้ำเพชรมาในราคา 1.4 ล้านบาท จากเจ้าของเดิม จึงเป็นเรื่องยากที่จะมอบคืนให้ โดยเจ้าของปางระบุว่า ให้ไปฟ้องร้องเอา แต่ตนไม่ต้องการให้เป็นเรื่องราวเพียงต้องการช้างของครอบครัวคืนมาเท่านั้น และหากได้คืน ก็ยินดีที่จะไม่เอาความใดๆ กับเจ้าของปาง แต่ถ้าไม่สามารถคืนช้างให้ได้ ตนก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีตามช่องทางเพื่อเอาช้างกลับคืนมา

               ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้ให้ทั้งสองเขียนคำร้องและมอบหลักฐานต่างๆ ไว้ ก่อนนัดหมายทั้งสองให้มาพบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ปศุสัตว์ และอำเภอเมืองภูเก็ต เพื่อลงพื้นที่ไปเจรจากับทางเจ้าของปางช้างอีกครั้ง

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ