ข่าว

อึ้ง!!?? "ถ้าเป็นผมอาจกดออโต้ไปแล้ว" แม่ทัพภาค 3

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"แม่ทัพภาคที่3" สั่ง ดูแลขวัญกำลังใจ ทหาร วิสามัญ นักกิจกรรม "ลาหู่" หลังตกเป็นผู้ร้ายสังคม เผยถ้าเป็นตัวเองอาจกดแบบออโต้

            23 มี.ค.60 - พล.ท.วิจักขฐ์ ศิริบรรพสพ แม่ทัพภาคที่3 กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทหารจากการวิสามัญฆาตกรรม นายชัยภูมิ ป่าแส นักเคลื่อนไหวชาติพันธุ์ชาวลาหู่  ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ว่า  ในส่วนข้อเท็จจริงทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5  ได้ชี้แจงว่านายชัยภูมิมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีหลักฐานการโอนเงิน การใช้จ่าย เพราะการที่เด็กคนหนึ่งไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็นนักเคลื่อนไหว เข้าไปพัวพันในวงจรนี้ได้อย่างไร ถือเป็นการหลงผิด ทั้งนี้ตนยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเป็นการตั้งด่านตามปกติสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิด CCTV อีกทั้งสถานที่ตั้งด่านเป็นที่แจ้ง ไม่ได้ลึกลับ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธ เมื่อเจ้าหน้าที่พบรถเป้าหมายก็ไปตรวจค้นธรรมดา แต่มีพิรุธ จึงเชิญตัวออกมา จากนั้นก็ตรวจค้นรถอย่างละเอียด จนไปเจอแหล่งซ่อนยาเสพติด ขณะที่นายพงศ์นัย แสงตะล้า ที่ถูกกักตัวโดยเจ้าพนักงานของรัฐ ไม่ทราบว่ารถมียาเสพติด แต่ตัวผู้เสียชีวิต ทราบว่ามียาเสพติดจึงวิ่งหนี ก่อนเตรียมหันมาจะขว้างระเบิด แต่เจ้าหน้าที่จึงยิงป้องกันตัว1 นัด
 
   "คดีนี้ว่ากันด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ใส่ร้าย รวมทั้งผู้บังคับหน่วยสอนลูกน้องดี มีการฝึกอบรม ทบทวนการตรวจค้นเสมอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ยิง ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เขามีความตั้งใจทำงาน อย่างไรก็ตาม ผมสั่งให้ดูแลขวัญกำลังใจ เพราะเขาตั้งใจทำงาน แต่กลับกลายเป็นคนร้าย ต่อไปจะไม่มีเจ้าหน้าที่กล้าปะทะ ส่วนตัวคิดว่าการกระทำดังกล่าวสมเหตุสมผล เพราะเป็นการป้องกันตนเอง โดยพยายามยิงจุดไม่สำคัญ แต่ก็เกิดความสูญเสีย ดังนั้นผมขอแสดงความเสียใจต่อกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ทุกอย่างต้องว่าไปตามรูปคดี และพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย"  พล.ท.วิจักษขฐ์ กล่าว
 
    พล.ท.วิจักษขฐ์ กล่าวว่า นายชัยภูมิมีอายุ 21 ปี เกิดเดือนมีนาคม2539 ไม่ใช่อายุ17 ปีตามที่เป็นข่าว จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะดูแลครอบครัวในฐานะคนไทยด้วยกันต่อไป ส่วนกรณีที่พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้ กองทัพภาคที่ 3 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อเรื่องนี้ โดยมี พล.ต. สมพงษ์ แจ้งจำรัส รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานคณะกรรมการฯนั้น เป็นการสอบข้อเท็จจริง ว่ากองทัพภาคที่3 วางตนเป็นกลางในการสอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชา หรือไม่ และสอบถามข้อมูลจากตำรวจ และพยาบาลในการชันสูตรพลิกศพ เพื่อได้ข้อมูลเป็นกลาง

"ถ้าเป็นผม ผมอาจ กด ออโต้ ไปแล้ว ก็ได้ นี่เขายิง ไปนัดเดียว อีกคนขว้างระเบิด ผมว่า สมเหตุผล ในการป้องกันตนเอง. เพาะทหารก็ ยิงแขน แต่พลาดโดนจุดสำคัญ บุญของน้อง มีแค่นั้น" พล.ท.วิจักษขฐ์กล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ