ข่าว

ลูกหลานอยากมากราบในหลวง ร.9 จึงพามา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พสกนิกรจากทั่วประเทศ อาทิ พัทลุง กำแพงเพชร สงขลา กาญจนบุรี นนทบุรี พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน สระแก้ว อุบลราชธานี มุกดาหาร เลย อ่างทอง ฯลฯ เดินทางมาด้วยรัก

        ลูกหลานอยากมากราบในหลวง ร.9 จึงพามา

         สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ นับเป็นวันที่ 140 วันนี้เจ้าหน้าที่เปิดประตูตั้งแต่เวลา 04.50 น. ให้พสกนิกรจากทั่วประเทศ อาทิ พัทลุง กำแพงเพชร สงขลา กาญจนบุรี นนทบุรี พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน สระแก้ว อุบลราชธานี มุกดาหาร เลย อ่างทอง สุพรรณบุรี เป็นต้น เดินเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดตลอดทั้งวัน


        ลูกหลานอยากมากราบในหลวง ร.9 จึงพามา

          น.ส.บุญเรือน ทองธนารักษ์ อายุ 65 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ชาวบ้านท่าแดง ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง เดินทางมาพร้อมญาติและเพื่อนๆ รวม 6 คน เล่าหลังจากเข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า เดินทางโดยเครื่องบินมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ แล้วพักที่บ้านเพื่อนก่อนจะตื่นแต่เช้ามืดแล้วมายังท้องสนามหลวงเพื่อเข้าแถวในเวลา 06.00 น.และได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพเวลา 08.00 น. รู้สึกดีใจและประทับใจกับการมาครั้งแรก รอไม่นานและได้รับความสะดวกจากเจ้าหน้าที่อย่างดี ตอนขึ้นกราบอธิษฐานว่ารักพระองค์มาก หากชาติหน้ามีจริงจะขอให้ได้พบเจอท่านทุกชาติ ขอให้พระองค์พักผ่อนให้สบายลูกๆ จะรักสามัคคีกันเพื่อพระองค์
   "เรารักท่านเหมือนเป็นพ่อคนหนึ่ง ยังไงต้องมาให้ได้ พอได้มามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ตอนเด็กๆ จำได้ว่ามีโอกาสได้รับเสด็จตอนท่านเสด็จไปเป็นประธานยกช่อฟ้าวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง แล้วเยี่ยมราษฎร ได้นั่งรับเสด็จใกล้ๆ เลย ทรงพระดำเนินผ่านข้างหน้าแล้วโบกพระหัตถ์ อีกครั้งที่ประทับใจไม่ลืมคือตอนไปเรียนที่วิทยาลัยครูยะลา ท่านเสด็จโดยรถไฟ เราก็พากันไปยืนรอรับริมทางรถไฟ รู้สึกจิตใจเบิกบาน เป็นบุญของเรามาก พระองค์ท่านทรงเป็นทุกอย่างของคนไทย เป็นแบบอย่างในทุกเรื่องโดยไม่ต้องบอกว่าให้รักให้ศรัทธา แต่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เราอยากเดินตามท่านทุกเรื่อง อย่างข้าราชการครูก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี เพราะเด็กๆ จะได้ก็ด้วยมีต้นแบบให้เขาเห็น นอกจากนี้ยังต้องซื่อสัตย์ สุจริต และอดทนด้วย" ครูบำนาญ กล่าว

    ลูกหลานอยากมากราบในหลวง ร.9 จึงพามา

       น.ส.มณฑา ยานิยม ชาวอ.เกาะยาวน้อย จ.พังงา ที่เดินทางพร้อมกับคณะอบต.เกาะยาวน้อยกว่า 400 คน กล่าวว่า ออกจากเกาะยาวน้อยตั้งแต่ค่ำวันที่ 22 มีนาคม ถึงกรุงเทพฯ และต่อแถวตั้งแต่เวลา 04.00 น.ได้เข้าถวายความอาลัยเวลา 07.40 น. ซึ่งตัวเองได้พาลูกสาว ด.ญ.ปาริตา ยานิยม อายุ 7 ขวบ และลูกของเพื่อน ๆ ด.ช.ปริยาภัทร ด้วงเล็ก ด.ญ.สุปวีร์ ด้วงเล็ก และ ด.ญ.ดารินทร์ ศรีเหมาะ มาพร้อมกัน เพราะเด็ก ๆ อยากมาและช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมพอดี เป็นครั้งแรกที่ได้มา รู้สึกปลาบปลื้มใจ แม้ว่าการเดินทางมาจะต้องใช้ระยะเวลานานและทางไกลหลายร้อยกิโลเมตรก็ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแต่อย่างใด เพราะอยากเดินทางมาหาในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อได้เข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทยิ่งรู้สึกคิดถึงพระองค์ท่าน แต่เชื่อว่าพระองค์ท่านยังเฝ้ามองพวกเราคนไทยทุกคนอยู่จากบนฟากฟ้า
      "พระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อประชาชนชาวไทยมายาวนาน ประทับใจพระจิยวัตรและพระราชกรณียกิจต่างๆที่ทรงทำให้คนไทยได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างวันนี้ลูกสาวก็อยากมาก็พามาด้วย เพราะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี แม้ว่าพระองค์ท่านจะไม่อยู่แล้วแต่ก็ได้สอนลูกเสมอว่าให้ยึดพระองค์เป็นแบบอย่างเช่นเดียวกับแม่นะที่ได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และยังสอนให้เขารักตัวเอง เพราะทุกอย่างเริ่มต้นที่เราเอง สอนให้เขาเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์และรู้จักเก็บหอมรอมริบ" นางสาวมณฑากล่าว
    ด้าน ด.ช.ปริยาภัทร ด้วงเล็ก อายุ 9 ปี กล่าวสั้น ๆ ว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เดินทางมาหาในหลวงรัชกาลที่ 9 จะตั้งใจเรียนหนังสือ จะเป็นเด็กดี ช่วยเหลือผู้อื่น โดยยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ