ข่าว

ฟังจากปาก "โซไรดา" ปิด-ไม่ปิดมูลนิธิเพื่อนช้าง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โซไรดา พ้อภาครัฐไม่เหลียวแล หวังกองทุนช้างคือทางออกยั่งยืน

ฟังจากปาก \"โซไรดา\" ปิด-ไม่ปิดมูลนิธิเพื่อนช้าง

         เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่มูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นางสาวโซไรดา ซาลวาลา อายุ 60 ปี ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยกรณีที่ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คว่า จะยุติบทบาทการทำงานเกี่ยวกับช้างว่า เรื่องดังกล่าวนั้น ยังไม่เป็นความจริง แต่ที่ต้องออกมาพูดเพราะขณะนี้ได้ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากกว่ารายรับที่เข้ามา เรียกว่าถึงขั้นติดลบ ซึ่งในแต่ละเดือนนั้นต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าดูแลช้าง เงินเดือนเจ้าหน้าที่ และการบริหารจัดการต่างๆ ถึงเดือนละ 8 แสน ถึง 1 ล้านบาท ขณะที่ในแต่ละเดือนมีรายรับเพียงเดือนละ 3-4 แสนบาท

          ทั้งนี้ เมื่อพูดถึงเงินสำรองที่ใช้ในการดูแลช้างทุกบัญชีมีเงินเหลือเพียง 12 ล้านบาท ซึ่งจะอยู่ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น เงินบริจาคต่อเดือนก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด บัญชีงบดุลขาดดุลมากว่า 11 ปีแล้ว ซึ่งทำให้คิดว่าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือก็คงต้องปิดมูลนิธิฯลง แต่ทั้งนี้เป็นความคิดของตัวเองเพียงคนเดียว ยังต้องนำเรื่องเข้าคณะกรรมการมูลนิธิฯเพื่อหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ฟังจากปาก \"โซไรดา\" ปิด-ไม่ปิดมูลนิธิเพื่อนช้าง

         "หลังจากที่มีข่าวออกไป ก็มีผู้สื่อข่าวและประชาชนให้ความสนใจ โทรศัพท์และส่งข้อความมาแสดงความเห็นใจและยื่นมืออยากให้ความช่วยเหลือมาก ต้องขอบคุณมาก แต่ใจจริงไม่อยากรบกวนภาคประชาชนอีกแล้ว เพราะเห็นว่าทุกคนก็ลำบาก มีความเดือดร้อนด้วยกันทั้งนั้น ส่วนตัวคิดว่าแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนนั้นคือการที่ภาครัฐยื่นมือเข้ามาช่วย ผ่านกองทุนช้าง ที่พูดมานานหลายปีแล้ว เพราะภาครัฐมีเงินที่จะสนับสนุนมูลนิธิต่างๆอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาน่าน้อยใจมากที่ผ่านมามูลนิธิเพื่อนช้างกลับไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ประชาชนไม่สามารถบริจาคและนำไปลดหย่อนภาษีได้ ทำให้บริษัทต่างๆไม่เลือกที่จะบริจาคมูลนิธิฯ เรายื่นเรื่องไปแล้วหลายครั้งปัญหาคือมูลนิธิเพื่อนช้างต้องนำเงินไปบริจาคให้ภายนอก 60% แต่เราไม่สามารถทำได้เพราะต้องนำเงินไปบริหารจัดการภายใน ปัญหานี้เกิดขึ้นนานมากจนตัดใจแล้ว"

ฟังจากปาก \"โซไรดา\" ปิด-ไม่ปิดมูลนิธิเพื่อนช้าง

          นอกจากนี้ นางโซไรดา ยังกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิมากว่า 25 ปี วิกฤตครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดแล้ว แต่ก็ยังคิดว่าอย่างไรต้องทำต่อ เพราะมีช้างเข้ามาขอความช่วยเหลือเป็นระยะ จากนี้ก็ยังคงรับรักษาและช่วยเหลือช้างอยู่ต่อไป หากปิดตัวลงจริงๆ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ยังมีโอกาสไปทำงานที่อื่นได้ แต่หากเป็นช้าง ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทุกวันนี้รู้สึกท้อแต่ที่มีกำลังใจเพราะเห็นช้างได้รับการดูแลและหายจากอาการเจ็บป่วย เป็นความสุขของคนทำงานด้านนี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ