เกษตรกรนครพนมไม่สนภัยแล้ง หาอาชีพเสริมเลี้ยง “แมงสะดิ้ง” 2 เดือนสร้างรายได้กว่า 70,000 บาท
วันที่ 8 มี.ค.60 นายนิรัน จำปา ชาวบ้านคำเตย หมู่ 5 ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม กล่าวว่า สมัยก่อนประกอบอาชีพทำนาเหมือนเพื่อนบ้าน เมื่อถึงช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวก็ไปรับจ้างมีรายได้พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้น กระทั่ง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อนได้ชักชวนให้ไปเรียนรู้การเลี้ยง“จิ้งหรีดเล็ก” หรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “แมงสะดิ้ง” หลังจากเรียนรู้ได้นำความรู้กลับมาต่อยอด โดยสร้างบ่อเลี้ยงซึ่งทำจากไม้และกระเบื้องแผ่นเรียบ ขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาว 3 เมตร สูง 1.2 เมตร จำนวน 2 บ่อ เพื่อเพาะเลี้ยงที่บ้าน จากนั้นก็ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับขั้นตอนการเลี้ยงเริ่มจากการหาสถานที่เลี้ยง ซึ่งจะต้องสามารถป้องกันแดด ฝน ห่างไกลมด และอากาศถ่ายเทสะดวก จากนั้นสร้างบ่อเลี้ยง และหาพันธุ์แมงสะดิ้งมาเลี้ยง จากนั้นก็เป็นการเลี้ยงดู ใช้อาหารสำเร็จรูปควบคู่ไปกับเศษพืช ผักที่หาได้ตามท้องถิ่น เช่น ก้านมันสำปะหลัง เปลือกมะละกอ เพราะแมงสะดิ้งจะชอบกินเป็นพิเศษ ซึ่งการให้อาหารทุกครั้งจะต้องให้ในปริมาณที่พอเหมาะ ในเวลาเดิมคือเช้า และเย็น เพื่อสร้างความเคยชินให้กับแมงสะดิ้ง
ส่วนการให้น้ำนั้นช่วงแรกที่แมงสะดิ้งตัวเล็กจะใส่ถาดที่มีทรายไปวางไว้ เมื่อโตเริ่มออกไข่ก็จะเปลี่ยนจากถาดที่มีทรายเป็นก้อนกรวดแทน เพราะจะทำให้เวลาที่คนซื้อไปทำอาหารรับประทานจะได้ไม่มีทรายในท้องของแมงสะดิ้ง และเมื่อโตพอที่จะวางไข่ก็จะนำเอาถาดแกลบดำผสมทรายมาวางไว้เพื่อเพาะพันธุ์แมงสะดิ้งชุดใหม่ ซึ่งเคล็ดลับอีกอย่างตรงนี้คือการนำก้านมันสำปะหลังมาวางด้านข้างถาดเพื่อให้แมงสะดิ้งกินเปลือกและเป็นบันไดไต่มาวางไข่ในถาด เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้จะได้พันธุ์แมงสะดิ้งน้อย เนื่องจากถาดอยู่สูงจะไม่ค่อยมีตัวแมงสะดิ้งไต่มาวางไข่
เวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเลี้ยงจนถึงสามารถจับขายได้ จะอยู่ที่ประมาณ 2 เดือน อาจจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงฤดูหนาว เพราะแมงสะดิ้งไม่ทานอาหารทำให้โตช้ากว่าปกติ โดยค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงจะอยู่ที่ประมาณ 500 บาทต่อบ่อ แต่จะสามารถจับขายได้ถึงบ่อละ 2,000 - 3,500 บาทเลยทีเดียว ปัจจุบันมี 35 บ่อ ทำให้มีรายได้เฉลี่ยกว่า 70,000 บาท ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการลงทุน และที่สำคัญสามารถเลี้ยงได้ตลอดทั้งปีไม่ต้องกลัวภัยแล้ง ซึ่งตลาดในขณะนี้ถือว่าดีมากเพราะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ตนเองใช้วิธีนำใส่รถมอเตอร์ไซด์ดัดแปลงไปขายในตลาดชุมชนในราคากิโลกรัมละ 200 บาท ไม่กี่ชั่วโมงก็หมดแล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง