ข่าว

ศาลนัดชี้ชะตา“ศิริโชค สิริวรรณภา"-เครือข่ายยูฟัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอาญา นัดชี้ชะตา “ ศิริโชค สิริวรรณภา อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา– เครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟันรวม 43 ราย ฉ้อโกงลวงลงทุนออนไลน์ “ U – TOKEN ” 22 มี.ค.นี้ 

       28 ก.พ. --  นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด 7 สำนวน จำเลยรวม 43 คนประกอบด้วยผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว พนักงานและนักศึกษา ที่มีการเสนอขายหน่วยลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า“ U – TOKEN” ซึ่งบริษัทกำหนดขึ้นเอง และไม่ใช่สินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้โดยใช้กลยุทธ์มุ่งเน้นชักชวนบุคคลให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกผ่านทางเว็บไซต์เพื่อระดมทุนโดยการซื้อหน่วยลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีเงินหมุนเวียน 20,000 ล้านบาทมีผู้เสียหายกว่า 2,000 รายว่า ตามที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องจำเลย รวม 43 คน ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2279/2558, อ.2836/2558, อ.1246/2559, อ.2081/2559, อ.2383/2559, อ.2915/2559 และ อ.3934/2559 ในความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 , พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบขายตรง พ.ศ.2545 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 , พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนนั้น

         ศาลอาญาได้สืบพยาน 120 ปาก ประกอบด้วยฝ่ายโจทก์ 61 ปาก และพยานฝ่ายจำเลย 59 ปาก จากที่โจทก์ได้ขอนำพยานเข้าสืบกว่า 3,000 ปาก และฝ่ายจำเลยขอเข้าสืบกว่า 400 ปากแต่เมื่อศาลได้ตรวจพยานหลักฐานและจัดกลุ่มพยาน กับได้มีการสอบรับข้อเท็จจริงแล้ว จึงให้มีการสืบพยานทั้งสองฝ่าย 120 ปาก โดยเริ่มสืบพยานตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.59 กระทั่งเสร็จสิ้นวันที่ 17 ก.พ.60 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการใช้เวลาพิจารณาเสร็จสิ้นเพียง 5 เดือนเศษ ขณะที่ศาลอาญา จะนัดฟังคำพิพากษาคดี ในวันที่ 22 มี.ค.นี้โดยอนุญาตให้คู่ความ ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อศาลภายใน 20 วัน 

         โฆษกศายุติธรรม กล่าวอีกว่า คดียูฟันนี้ ศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้น 164 คน สามารถจับกุมมาเข้าสู่กระบวนการพิจารณา 43 คนซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องแล้วเป็น 7 สำนวนคดีนี้โดยระหว่างนี้จำเลยทุกคนยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ขณะที่การพิจารณาคดีนั้น ศาลอนุญาตให้รวมสำนวนเป็นคดีเดียวกัน้นื่องจากพยานหลักฐานชุดเดียวกันและจำเลยก็ถูกต้องขังไว้ ซึ่งคู่ความให้ความร่วมมือในการดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นอย่างดี จนคดีเสร็จการพิจารณาก่อนกำหนดกว่า 8 เดือนซึ่งเดิมกำหนดจะสิ้นสุดในเดือน ต.ค.60

          “การพิจารณานี้ทำให้ได้ประหยัดทั้งองค์คณะผู้พิพากษาที่ต้องนั่งพิจารณาและเวลาในการพิจารณาคดี ซึ่งการพิจารณาคดีอย่างรวดเร็วนั้น นับได้ว่าสิ่งที่สำนักงานศาลยุติธรรม ถือเป็นนโยบายหลักอีกส่วนหนึ่งในการพิจารณาพิพากษาคดี เพราะความยุติธรรมที่ล่าช้าคือการปฏิเสธความยุติธรรม Justice delayed is justice denied ” โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวย้ำ

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟันนี้ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้สรุปสำนวนควรฟ้อง  นายศิริโชค สิริวรรณภา อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ,นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประกอบธุรกิจส่วนตัว อายุ 58 ปี  กับพวก ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 5 และ 12 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 10 ปี ปรับตั้งแต่ 500,000 – 1 ล้านบาท และฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 4 - 15 ปี ปรับตั้งแต่ 80,000 – 300,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาอื่น ทยอยส่งให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตั้งแต่ ปี 2558

           กระทั่งมีการยื่นฟ้องต่อศาลในปี 2559 และ 25560เพื่อให้พิพากษาลงโทษในความผิดฐาน มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 มาตรา 3,4,5,6,7,25 , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ,343 , ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงฯ ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตรา 19,21,46,48 , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 3 , 14 และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 พร้อมขอให้จำเลยร่วมกันคืนเงินชดใช้แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน รวมเป็นเงิน  351,556,314 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี  

           โดยยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 134 ราย ประกอบด้วย บุคคล 130 ราย และนิติบุคคล 4 ราย ทางอัยการได้แจ้งให้ทางพนักงานสอบสวนติดตามจับกุมตัวมาฟ้องภายในอายุความ 15 ปีต่อไป โดยมีผู้ต้องหาบางรายได้หลบหนีไปต่างประเทศ อัยการจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบหาแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจน เพื่อทำสำนวนขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ