ม.44 แก้ปัญหาออกสิทธิบัตรยาล่าช้า 

         พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรักษาความสงบเรียบร้อย (คสช.) ว่าที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องการแก้ปัญหาการขอรับสิทธิบัตร ที่มีผู้ยื่นขอจดสิทธิบัตรกว่า 20,000 ราย ในจำนวนนี้มีสิทธิบัตรด้านยาคั่งค้างอยู่ถึง 12,000 ราย นานกว่า 10-20 ปี ซึ่งบางรายได้ไปขอขึ้นทะเบียนในต่างประเทศแล้ว แต่ของไทยยังคงติดปัญหาที่ไม่สามารถจดทะเบียนให้ได้ เนื่องจากขาดแคลนบุคลากรที่ต้องเข้าไปตรวจสอบสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด โดยที่ประชุมเห็นว่าจะใช้ ม.44 ในการแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อดูแลผู้ที่ขอสิทธิบัตรที่คั่งค้างนั้นให้ได้รับการจดสิทธิบัตรอย่างถูกต้องส่วนใหญ่พบว่าเป็นชาวต่างชาติ หากไทยยังล่าช้าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการแข่งขันในต่างประเทศ จึงเห็นชอบให้ใช้ คำสั่ง ม.44 กำหนดให้คนที่ขอสิทธิบัตรมาแล้ว 5 ปี และได้มีการจดสิทธิบัตรในต่างประเทศแล้ว มาขอรับสิทธิบัตรได้ทันที โดยมีเงื่อนไขว่า สินค้าจะต้องตรงกันกับการขอสิทธิบัตรนั้น และต้องมีการจดทะเบียนที่ต่างประเทศ โดยหากพบว่าเป็นสินค้าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข เช่นมีการลอกเลียนแบบหรือไม่มีการจดทะเบียนที่ต่างประเทศ รัฐบาลสามารถยกเลิกการจดสิทธิบัตรในภายหลังได้ 

         คาดว่าจะทำให้ผู้ที่ยังค้างการขอรับสิทธิบัตรได้จดสิทธิบัตร ครบ 1 หมื่นกว่าราย ใน 3 เดือนนี้ อย่างไรก็ดีในที่ประชุมยังตั้งข้อสังเกตว่า ในเรื่องการจดสิทธิบัตรยา จะทำให้ยาบางตัวมีราคาสูงขึ้น ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อประชาชนได้ เพราะยาที่จำเป็นบางตัวขณะนี้มีราคาไม่สูงมากนักประชาชนยังหาซื้อบริโภคได้อยู่ ทั้งนี้ คสช.จะออกคำสั่งใน ม.44 เป็นกรณีพิเศษเฉพาะเรื่องยาต่อไปในภายหลัง เพื่อไม่ให้ประชาชนในประเทศได้รับความเดือดร้อน