เปิดใจช่างภาพอาสาเผยเหตุหมีหลุดจาก ฮ. คาดแรงเหวี่ยงทำให้ตะขอเกิดอ้าหลุด
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ การทำงานของเจ้าหน้าที่ ในขณะทำการขนย้ายหมีควายคืนสู่ป่า โดยช่างภาพอาสาหรือ นายธนาธิป ไชยยศ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมช่วยเหลือสัตว์ป่า ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวประจำหวัดนครนายก และเป็นอาสาสมัครของอุทยานที่คอยทำหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการทำงานดูแลสัตว์ป่ามาโดยตลอด เปิดเผยว่า ตนเองและทีมสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่อุทยานได้ ดักจับหมีควาย ที่ลงมากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลนาหินลาด ที่บริเวณใกล้เคียงน้ำตกวังม่วงตั้งแต่เมื่อวันที่30พฤศจิกายน2559โดยทีมสัตว์แพทย์จาก สบอ.1ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ พร้อมทั้งอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ป่าได้ทำการติดตั้งกรงดักหมีควายจนสามารถดักจับได้ จากนั้นจึงนำมาพักตรวจโรคและฟื้นฟู เพื่อปล่อยคืนสู่ป่า
จนต่อมาทางผอ.สำนัก สบอ.1ปราจีบุรี และทางทีมสัตว์แพทย์รวมไปถึงขณะทำงานจึงได้มีการวางแผนในการการปล่อยคืนสู่ป่าว เนื่องจากที่ผ่านมาเรามีการจับหมีได้และก็นำปล่อยแต่เราไม่เคยรู้ว่าหมีหลังจากที่เราปล่อยแล้วจะเดินไปไหน และถิ่นหากินของหมี รวมไปถึงเราไม่รู้ได้ว่าจะกลับลงมาอีกไหม จึงได้มีการวางแผนที่จะทำการติดคอล่าแทค หรือเครื่องติดตามระบบดาวเทียมให้หมีควายจนได้รับการสนับสนุนจาก บริษัทมหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ มหาชน จำกัด หรือ ที่รู้จักว่า ไม้เฌอร่า ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ในการติดตามสัตว์ป่าภารกิจจึงเริ่มต้นขึ้น
โดยได้มีการวางแผนและประชุมว่าการปล่อยหมีจะใช้ ฮ.ในการลำเรียงหมีควายที่มีน้ำหนัก 80 กิโลกรัม ไปปล่อยในป่าลึก เพราะเนื่องจากเส้นทางในการเดินทางรถไม่สามารถไปได้ บวกระยะทางหลายร้อยกิในการขนย้ายหมีต้องใช้เวลานานนั้นคือจะต้องหมีการวางยาหมีควายในปริมาณมากเพื่อให้หมีสลบได้นานหลายชั่วโมง ดังนั้นแผนการปล่อยคืนสู่ป่า ฮ.จึงเป็นทางเลือกของภารกิจนี้ และที่สำคัญการปล่อยหมีคืนสู่ป่าก็เคยใช้ฮ.ในการทำภารกิจมาแล้ว ครั้งนี้จึงเป็นอีกครั้งที่มีการใช้ฮ.เพื่อลดความเสี่ยงในการวางยาสลบกับหมีควาย และรวดเร็ว
ดังนั้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 09.30น. จะมีการนำหมีไปปล่อยคืนสู่ป่า โดยได้มีการนัดหมายกันโดยแบ่งทีมเป็น2ทีม คือ1 .ภาคพื้นดิน จะมีชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปยังจุดนัดพบเพื่อให้สัญญาณ ฮ.ลงจอดและปลดล็อคหมีพร้อมยกหมีออกจากตาข่ายและนำเข้าไปในป่า ทีมที่2คือทีม สัตว์แพทย์ที่อยู่ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยปรือ ซึ้งเป็นที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าภาคกลาง จังหวัดนครนายก ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายหมีควายออกจากกรงมาขึ้น ฮ.โดยมีสัตว์แพทย์ดูแลและวางยาสลบอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการเก็บข้อมูลและบันทึกวีดีโอ ในการทำงาน ตลอดจนหมีลุกเดินเข้าป่าโดยช่างภาพอาสาสมัครเป็นหนึ่งในทีมช่วยเหลือสัตว์ป่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่เก็บภาพตลอดการทำงาน โดยได้มีการเก็บภาพหมีตัวนี้ตั้งแต่เริ่มทำการวางกรงและจับได้
จากนั้นเมื่อทุกอย่างพร้อม ตามเวลานัดหมาย ฮ.ได้ยกตัวขึ้นจากลานจอด ฮ.บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปยังจุดหมายแรกนั้นคือ เขาแหลมซึ่งเป็นจุดที่จะปล่อยหมีความเพื่อดูพื้นที่ลงจอดฮ.และดูความพร้อมของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเพื่อปลดตะขอ ที่หิ้วหมีควาย เพราะไม่สามารถปลดจากด้านในได้ต้องปลดจากภายนอก จากนั้นหลังจากที่ลงจอดที่เขาแหลม ฮ.จึงได้ยกตัวเดินทางไปยัง อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ เมื่อ ฮ.ลงจอด รถกะบะบรรทุกหมีก็ขับมาจอดจากนั้นทีมเคลื่อนย้ายจึงได้เร่งช่วยกันยกมีวางลงในตาข่ายโดยหมีได้นอนอยู่บนเปลกู้ภัยและรัดด้วยเข็มขัด อย่างแน่นหนา จากนั้นทุกอย่างเรียบร้อยเข้าที่ ทำการล็อคอุปกรณ์เสร็จทางสัตว์แพทย์จึงขอตรวจดูอาการการหายใจของหมีควายให้แน่นอนอีกครั้ง จนแน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมจึงบอกนักบินว่าเรียบร้อย
จากนั้น ฮ.จึงยกตัวไปยังจุดหมาย โดยจากการพูดคุยกับสัตว์แพทย์จึงทำให้ทราบว่าได้มีการเตรียมน้ำเกลือ และด่างเพื่อฉีดให้หมีหากถึงที่หมายแล้วหมียังไม่ฟื้น จากนั้น ฮ.บินผ่านมาจนถึงจุดบริเวณใหล้เคียงน้ำตกนางรอง ซึ้งระยะเวลาที่บินมายังไม่ถึง2นาที เมื่อมาถึงจุดนี้ ทุกคนก็ต้อตกใจเมื่อจู่ ฮ.ก็มีอาการเอียงและส่าย มันหมายถึง ฮ.ตกหลุมอากาศ แต่สิ่งที่เราไม่คาดนั้นคือ แรงเหวี่ยงของหมีควายน้ำหนัก 80กิโลกรัม ที่อยู่ในตาข่ายใต้ท้อง ฮ.เกิดอาการเหวี่ยงย่างรุนแรงจนทำให้นักบินพยายามที่จะควบคุมเครื่อง เป็นเวลานานและประคองการทรงตัวอยู่นานโดยลดระดับการบิน
“จากการที่ผมนั่งดูและได้ถ่ายภาพเก็บไว้ในช่วงหลัง ที่ ฮ.ลดอาการเหวี่ยงแต่หมีควายใต้ท้องเครื่องยังไม่หยุดเหวี่ยงจากนั้น ผมมีความรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างหลุดร่วงลงไป จากนั้นนักบินก็สามารถบังคับเครื่องและพยายามบินวนดูบางสิ่งบางอย่าง ที่ร่วงลงไป จึงทำให้ผมคิดว่าแรงเหวี่ยงทำให้ตะขอหรืออะไรซักอย่างหลุด จากนั้น ฮ.ก็สามารถกลับมาปกติและนักบินนำเครื่องกลับมาลงจอดเมื่อลงมาดูพบว่าสลักตะขอหลุดอ้าออก ผมคิดว่าน่าจะเกิดจากแรงเหวี่ยงทำให้อ้าและเป็นเหตุให้หมีหลุดร่วง สำหรับเหตุการณ์นี้ผมถือว่าเป็นเรื่องของเหตุสุดวิสัยมันคืออุบัติเหตุไม่มีใครรู้สภาพอากาศ หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น และสำหรับผมเรื่องเป็นเรื่องความผิดพลาดของภารกิจ ภารกิจเราล้มเร็ว เราจึงไม่จำเป็นที่ต้องประกาศอะไร ”นายธนาธิป ระบุ
นายธนาธิป ระบุอีกว่า เบื้องต้นก็ได้มีการรายงานตามลำดับชั้น ถึงปัญหา แต่ตนเองต้องมาตกใจกับข่าวที่ออกมา จึงขอยืนยันในฐานะที่ตัวเองเป็นทั้งสื่อ และเป็นทั้งอาสาสมัครในการทำงานช่วยเหลือสัตว์ป่า ว่าการทำงานของเราวางแผนและรอบคอบ นักบินทำหน้าที่ได้ดีพาพวกเรากลับมาได้อย่างปลอดภัย สัตว์แพทย์ทำตามขั้นตอนประเมินอาการวางยาหมี หมีไม่ได้ลุกขึ้นมาฉีกตาข่ายอย่างที่เป็นข่าว และนักบินเองก็ไม่ได้ตัดตาข่ายอะไร ตาข่ายอยู่ใต้ท้องไม่มีใครปีนลงไปตัดได้ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของระบบที่มีการเซฟตัวเมื่อเกิดแรงเหวี่ยงรุนแรงจึงทำให้หลุดอ้าออก ไม่อย่างนั้นไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจถึงการทำงาน ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และไม่มีใครคาดเดาภาพอากาศได้ ครั้งนี้ที่ตัดสินใจนำเรื่องราวทั้งหมดออกมาเปิดเผยเพื่ออยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจในการทำงานของทีม เพราะการดำเนินการในครั้งนี้เราเองก็หวังที่จะติดตามเส้นทางหากินของหมี เพื่อนำมาเป็นแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องของหมีที่ลงมาในพื้นที่ชุมชน อย่างต่อเนื่อง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง